โขนโรงใน
ในเวลาที่มีการแสดง โขนหน้าจอนั้น ในพระราชวัง ก็มีการแสดงละคร ในอยู่ก่อน แล้ว เมื่อราษฎร สามารถแสดง ละครในได้ โขนจึงรับเอา ศิลปะการแสดง แบบละครในเข้ามา แสดงในโขนด้วย เช่น นำการขับร้อง เพลง ตามแบบละครมาขับร้อง แทรกไปกับการพากย์เจรจา
ในเวลาที่มีการแสดง โขนหน้าจอนั้น ในพระราชวัง ก็มีการแสดงละคร ในอยู่ก่อน แล้ว เมื่อราษฎร สามารถแสดง ละครในได้ โขนจึงรับเอา ศิลปะการแสดง แบบละครในเข้ามา แสดงในโขนด้วย เช่น นำการขับร้อง เพลง ตามแบบละครมาขับร้อง แทรกไปกับการพากย์เจรจา
โขนนั่งราวหรือโขนโรงนอกพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชาธิบาย เกี่ยวกับโขนนั่งราวว่า “ในงาน มหรสพหลวง อย่างที่เคยมี ในงานพระเมรุ หรืองานฉลองวัด เป็นต้น คือ ที่เรียกตาม ปากตลาดว่า โขนนั่งราว”
โขนชักรอก นับเป็นวิวัฒนาการ ของการแสดงโขน อีกชนิดหนึ่ง ซึ่งไม่ค่อยมีผู้เขียนไว้ เป็นหลักฐาน โขนชักรอก คือ การแสดงโขน ที่ชักรอกตัวโขน ให้ลอยขึ้นไปจากพื้นเวที มีทั้งแบบโขนฉาก และโขน หน้าจอ โขนชักรอกที่แสดงแบบโขนฉาก มีกำเนิดตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๖ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
การแสดงโขนโรงใน ที่มีโรงสำหรับการแสดง และมีม่านกั้น ทางด้านหลัง อย่างละครใน เป็นโขนที่ได้ รับความนิยม จากผู้ชมมาก เพราะได้ชมทั้งศิลปะ การเต้นอย่างโขน และชมกระบวน การรำฟังเพลง ร้องอย่างละครใน
คือ การแสดงโขน บนพื้นดินกลางสนามหญ้า ไม่ต้องปลูกโรงให้เล่น ปัจจุบันหาดูได้ยาก กรมศิลปากร เคยจัดแสดง โขนกลางแปลง ณ พระราชอุทยาน รัชกาลที่ ๒ จังหวัดสมุทรสงคราม ในโอกาสพิเศษ วันพระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
เรื่องราวการต่อสู้ของยักษ์วัดแจ้งและยักษ์วัดโพธิ์ ซึ่งเป็นเหตุให้บริเวณที่สู้รบกันเกิดเพลิงไหม้วอดวายราบเลี่ยนเตียนโล่ง อันเป็นสาเหตุให้ย่านนั้นมีนามว่า “ท่าเตียน” โดยเล่าเรื่องผ่านคำบอกเล่าของ “ผีบ้า” ที่อาศัยอยู่บริเวณตลาดหลังวัดโพธิ์ ในแผ่นดินรัชการที่สี่
ละครเวทีเบาสมองนำเสนอเส้นทางชีวิตของชาวเพศที่สามที่ต้องทนทุกข์อยู่กับความผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในที่สุดพวกเขา-เธอก็ค้นพบว่าการฆ่าตัวตายมิใช่ทางแก้ปัญหา หากเป็นวังวนแห่งความทุกข์ที่ไม่มีวันจบสิ้น
ติดตามเจ้าชายปิ๊บปิ้น รัชทายาทของกษัตริย์ชาลเลอเมน แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเพิ่งสำเร็จการศึกษาสรรพวิทยาการมามาดๆ และมีความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะค้นพบความพิเศษเหนือใครของตนเอง เขาออกเดินทางค้นหาความพิเศษอันนั้นด้วยหวังว่ามันจะมาเติมเต็มให้ชีวิตของเขาสมบูรณ์ขึ้น
ถ้าคุณเคยเบื่อหน่ายกับการไปโรงเรียน คุณก็คงเข้าใจดีว่า “ อาซาโกะ ” กำลังคิดอะไรอยู่ เมื่อสาวน้อยไฮสคูลอย่างเธอ ตัดสินใจขาดเรียนนานกว่า 4 สัปดาห์ โดยได้รับการช่วยเหลือ จากเพื่อนสนิท ชื่อ “ โคอิจิ ” ซึ่งเป็นกิ๊กหนุ่มของครูประจำชั้น ให้ช่วยทำให้เธอขาดเรียนได้โดยไม่ต้องเสียคะแนน และปกปิดเรื่องนี้เป็นความลับจากแม่ที่ทั้งดุ จู้จี้ และไม่เคยคิดถึงจิตใจคนอื่นของเธอ
ละครที่เสียดสีสังคมบริโภคทุกยุคสมัยได้อย่างสะใจ โดย กรกช อัตตวิริยะนุภาพ ในสภาพสังคมที่ผู้บริโภคตกเป็นเหยื่อของระบบทุนนิยม ระบบแข่งขันกันทางธุรกิจ ที่ทำให้ราคาสินค้าต่างๆ ถีบตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ คงมีคนจำนวนไม่น้อยที่บ่นว่า “ เราจ่ายไม่ไหวแล้ว ” และถ้าเกิดว่าความรู้สึกอึดอัดขัดสนนี้สั่งสมเพิ่มขึ้นมากเรื่อยๆ จนผู้คนเหล่านี้ประกาศออกมาว่า “ เราไม่จ่ายหรอก เราไม่จ่าย ” แล้วอะไรจะเกิดขึ้นได้บ้าง
คำกล่าวหาจากศาลาทวงศพ โดย เจตนา นาควัชระ การแสดงละครเรื่อง นายซวยตลอดศก โดย “ กลุ่มมะขามป้อม ” ณ ลานไทรริมน้ำ สวนสันติชัยปราการ บางลำพู เป็นส่วนหนึ่งของมหกรรมละครเวทีที่นักแสดงร่วม 40 กลุ่มร่วมใจกันจัดขึ้นเป็นครั้งแรก และผมได้ไปชมเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2545
“ ราชินีแห่งสีสัน ” กับการตีความใหม่ เมื่อตัวละครที่เป็น “ หุ่น ” เป็นผู้เดียวที่มีสิทธิ์สั่งการ โดย กรกช อัตตวิริยะนุภาพ เมื่อผู้เขียนได้เห็นรายการว่าจะมีการแสดงละครเรื่อง “ ราชินีแห่งสีสัน ” ที่กรุงเบิร์นในงานเทศกาลละครหุ่นและวัสดุครั้งที่ 5 (Figuren- und Objekttheatertage) เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม – 10 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
ว่าด้วยพันธนาการของสัจนิยม โดยเจตนา นาควัชระ สิบกว่าปีมาแล้วที่ผมเขียนบทวิจารณ์ละครเวทีโดยใช้ชื่อว่า ” พันธนาการของสัจนิยม ” ( รวมเล่มไว้ใน ครุ่นคิดพินิจนึก หน้า 183-189) ผมเองก็ไม่ได้คิดว่าประเด็นดังกล่าวจะกลายมาเป็นปัญหาหลักของวงการละครของไทยไปได้ แต่ปรากฏการณ์ล่าสุดที่ทำให้ผมต้องหวนกลับมาพิจารณาและอภิปรายประเด็นดังกล่าวนี้ซ้ำอีก
โดยสมภพ จันทรประภา เมื่อได้ยินว่ากรมศิลปากรเล่นละคอนในเรื่องอิเหนาก็ดีใจ เพราะอยากจะดูอีกสักหนว่า ละคอนในนั้นเป็นอย่างไร ครั้งสุดท้ายที่ได้ดูมันนานเต็มทีถึง 37 ปี จำอะไรไม่ได้เลยนอกจากว่า อิเหนาแต่งตัวช้าเหลือเกินกว่าจะอาบน้ำผลัดผ้าเสร็จก็ง่วงแทบตาย
จิตวิทยาสังคม จากการแสดงละครใน ตอนศึกกะหมังกุหนิง โดยม.ล. บุญเหลือ เทพยสุวรรณ เนื่องในการฉลองการครบสองศตวรรษแห่งพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ซึ่งเรามักเรียกกันเพื่อความสะดวกว่า รัชกาลที่ 2 กรมศิลปากรหรืออีกนัยหนึ่งโรงเรียนนาฏศิลป์ ได้แสดงละคร โดยใช้พระราชนิพนธ์บทละครเรื่อง อิเหนา ตอนศึกกะหมังกุหนิง
โดยเจตนา นาควัชระ ผู้เขียนได้เคยกล่าวถึงวรรณกรรมการละครเรื่อง ข้อยกเว้นและกฎเกณฑ์1 ของแบร์ทอลท์ เบรคชท์ (Bertolt Brecht) ไว้โดยย่อในหนังสือ ทฤษฎีเบื้องต้นแห่งวรรณคดี ว่าเป็นบทละครที่เป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องของการสร้างและทำลายความเป็น “มายา” ของงานศิลปะ
ข้อคิดเห็นเบื้องต้นเกี่ยวกับการแสดงละครเรื่อง “กาลิเลโอ” ของแบร์ทอลท์ เบรคชท์ โดยเจตนา นาควัชร
การจัดแสดงละครกรีกโบราณเรื่อง อีดิปุสจอมราชันย์ ของ ซอเฟอคลีส* จัดได้ว่าเป็นก้าวสำคัญของวงการละครพูดตะวันตกในประเทศไทย ผู้จัดแสดง คือ ภาควิชาศิลปะการละคร คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้พิสูจน์ให้เห็นประจักษ์แล้วว่า ศิลปะที่ยิ่งใหญ่ย่อมไม่ผูกติดอยู่กับกาลเวลาและสถานที่
การลงทุนในศิลปะเป็นการลงทุนทางเลือก (Alternative Investment) ประเภทหนึ่ง ซึ่งเป็นที่นิยมของผู้มีความมั่งคั่งสูง การลงทุนในศิลปะแตกต่างจากการลงทุนในหลักทรัพย์และสินทรัพย์อื่น เพราะเป็นการลงทุนที่ใช้ “ศิลป์” มากกว่า “ศาสตร์” เนื่องจากมีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง จึงมีประเด็นและแง่มุมที่ต้องพิจารณาแตกต่างไปจากการลงทุนอื่นๆ
ไม่ว่าจะเป็นวงอินดี้สุดล้ำของอังกฤษ หรือเพลงเค-ป็อปที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ทุกวันนี้ ต่างก็เป็นหนี้ความล้ำสมัยก่อนกาลของดนตรีซินธ์ป็อปที่เคยรุ่งเรืองเมื่อยุค 80 ทั้งสิ้น จนเป็นที่มาของการหวนคืนวงการอีกครั้งของต้นตำรับดนตรีเต้นรำที่ไม่หวานเลียนแต่เน้นความแปลกใหม่เหล่านี้
วงมโหรีเป็นวงดนตรีที่ใช้สำหรับขับกล่อมนิยมใช้บรรเลงในงานมงคล โดยเฉพาะงานมงคลสมรส แต่โบราณใช้บรรเลงกล่อมพระบรรทมสำหรับพระมหากษัตริย์ เครื่องดนตรีที่ใช้บรรเลงในวงนี้ประกอบด้วยเครื่องดนตรีในวงปี่พาทย์และวงเครื่องสาย หากแต่เครื่องดนตรีในวงปี่พาทย์ที่นำเข้ามาผสมในมโหรีนี้ได้ลดขนาดให้เล็กลง เพื่อให้มีเสียงพอเหมาะกับเครื่องดนตรีในวงเครื่องสาย และใช้ซอสามสายเข้ามาร่วมบรรเลงด้วย
วงปี่พาทย์ วงปี่พาทย์เป็นวงดนตรีที่ประกอบด้วยเครื่องตี เป็นหลักโดยมีเครื่องเป่าคือขลุ่ยหรือปี่ร่วมอยู่ด้วย ใช้สำหรับเป็นเครื่องประโคมในพิธีกรรมต่าง ๆ รวมทั้งการแสดงโขน – ละคร ฟ้อนรำ และมีการผสมวงตามโอกาสที่ใช้ทำให้จำนวนของเครื่องดนตรีมีน้อยมากแตกต่างกันไป ดังนี้
วงเครื่องสาย เป็นวงดนตรีที่ใช้เครื่องดนตรีที่มีสายประเภทเครื่องดีดและเครื่องสีเป็นหลัก และมีเครื่องเป่า และเครื่องตีร่วมบรรเลงอยู่ด้วย ส่วนใหญ่ใช้บรรเลงในงานมงคลไม่นิยมใช้บรรเลงในงานอวมงคล วงเครื่องสายมี 3 ประเภท
วิถีคนกล้า : การแสดงเชลโลกับเปียโนที่ซอยเกอเธ่ โดย เจตนา นาควัชระ ในบรรดารายการแสดงเชลโลกับเปียโนที่ได้เคยรับฟังมาในประเทศไทย ยังไม่เคยมี นักดนตรีผู้ใดที่กล้าจัดรายการที่ท้าทายเช่น Duo Recital โดย I-Bei Lin ( เชลโล ) และนภนันทน์ จันทอรทัยกุล ( เปียโน ) ที่มูลนิธิวัฒนธรรมไทย – เยอรมัน ซอยเกอเธ่ เมื่อคืนวันที่ 5 สิงหาคม 2545
ตลอดระยะเวลา 4 ทศวรรษบนถนนสายดนตรี ชิค คอเรีย ไม่ได้เป็นเพียงนักเปียโนที่มีทักษะอันเจนจัดชนิดหาตัวจับยากเท่านั้น หากในอีกด้านหนึ่ง เขามีบทบาทด้านการประพันธ์ดนตรีที่หลากหลาย ตั้งแต่งานเพลงแจ๊ส ( Jazz Tunes ) ในแบบฉบับบีบ็อพ จนถึง อวอง-การ์ด และตั้งแต่งานเพลงเด็กบริสุทธิ์สดใส ไปถึงโทนโพเอม ( Tone Poem ) อันวิจิตรอลังการ
Jaco Pastorius Big Band ย้อนรอยอัจฉริยภาพ “แจโค” เรื่องราวของ แจโค แพสโทริอัส (Jaco Pastorius 1951-1987) นับเป็นโศกนาฏกรรมอันน่าเศร้าของวงการดนตรีแจ๊สอย่างไม่ต้องสงสัย จาก “อัจฉริยะ” ผู้เปี่ยมพลังสร้างสรรค์ดนตรี ซึ่งพลิกโฉมหน้าการเล่นกีตาร์เบสด้วยนวัตกรรมใหม่ ได้กลายมาเป็น ” เทพในร่างซาตาน” ผู้มีอาการจิตเสื่อมชนิดรุนแรง กระทั่งต้องจบชีวิตของตนลงอย่างไร้ค่าในที่สุด
รำลึกถึง ลู รอว์ลส์ หลังจากป่วยเป็นเวลาแรมปี ในที่สุด ลู รอว์ลส์ ได้จากโลกไปเมื่อวันที่ 6 มกราคม ที่ผ่านมา ด้วยโรคมะเร็งในปอด ซึ่งลุกลามขึ้นสู่สมอง
“โมสาร์ท เอฟเฟคท์” (Mozart Effect) หรือผลกระทบในทางสร้างสรรค์จากดนตรีคลาสสิก โดยเฉพาะจากบทประพันธ์ของ วอล์ฟกาง อมาดิอุส โมสาร์ท ( Wolfgang Amadeus Mozart) ในด้านการเสริมสร้างพัฒนาการทางสติปัญญาและอารมณ์ กำลังเป็นกระแสความสนใจของผู้คนบ้านเราในเวลานี้
ปารีส ปารีส เวลาที่เอ่ยชื่อปารีส ฮิลตั้นขึ้นมา คุณจะนึกถึงอะไรบ้างคะ? เทปลับภาคหนึ่งและภาคสองของเธอ? คุณพ่อที่ร่ำรวยมาก? ไฮโซในบ้านนอก-รายการเรียลลิตี้โชว์ของเธอ? หรือโฆษณาแฮมเบอร์เกอร์ที่เธอแสดงเป็นเด็กล้างรถ
กำเนิดภาพยนตร์ กำเนิดภาพยนตร์ในโลก โทมัส อัลวา เอดิสัน (Tomas Alva Edison) นักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งสหรัฐอเมริกา ได้ชื่อว่าเป็นผู้คิดประดิษฐ์ภาพยนตร์สำเร็จเป็นรายแรกเมื่อ พ.ศ.๒๔๓๒ ตรงกับสมัยรัชกาลที่ ๕ แต่ภาพยนตร์ของเอดิสันมีเครื่องดูเป็นตู้แบบที่เรียกว่าถ้ำมองให้ผู้ชมดูได้ทีละคน เขาเรียกเครื่องดูภาพยนตร์ของเขาว่า “คิเนโตสโคป” (KINETOSCOPE)
กำเนิดการสร้างภาพยนตร์ในสยาม การถ่ายทำภาพยนตร์ในสยามเริ่มขึ้นโดย พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าทองแถมถวลยวงศ์ กรมหลวงสรรพสาตรศุภกิจ พระเจ้าน้องยาเธอในรัชการที่ ๕ ซึ่งทรงสั่งซื้อกล้องถ่ายภาพยนตร์และอุปกรณ์เข้ามาสยาม เมื่อครั้งที่พระองค์ทรงตามเสด็จฯ พระพุทธเจ้าหลวง ประพาสยุโรปครั้งแรกเมื่อปี ๒๔๔๐
คนไทยเริ่มสร้างภาพยนตร์ไทย เมื่อ “นางสาวสุวรรณ” ออกฉายสู่สาธารณชนในฐานะภาพยนตร์ไทยเรื่องแรก เมื่อปี ๒๔๖๖ แล้ว นับจากนั้นมาได้มีเสียงเรียกร้องต้องการจากผู้ชมภาพยนตร์ ปรากฏตามหน้าหนังสือพิมพ์อยู่เนืองๆ ว่า อยากให้มีผู้คิดสร้างภาพยนตร์ไทยขึ้นอีก ล่วงมาจนกระทั่งปลายปี ๒๔๖๙ ต้นรัชกาลที่ ๗ จึงมีคนไทยประกาศจัดสร้างภาพยนตร์ขึ้นเป็นรายแรก
ยุคภาพยนตร์ไทยเงียบของสยาม ปี๒๔๗๐ ซึ่งคนไทยเราเริ่มต้นสร้างภาพยนตร์เรื่องบันเทิงด้วยตนเองนั้น ในทางสากลนับเป็นปีที่วงการภาพยนตร์ของโลก กำลังเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคภาพยนตร์เสียง หรือที่เวลานั้นเรียกกันว่า ภาพยนตร์พูดได้ (talkies) พอดี
ยุคทองของภาพยนตร์ไทย กำเนิดภาพยนตร์ไทยพูดได้ ในระยะปลายปี ๒๔๗๒ ต่อ ๒๔๗๓ ได้มีคณะฝรั่งนักถ่ายภาพยนตร์เสียงในฟิล์มจากบริษัท ฟ้อกซ์มูวี่โทน แห่งสหรัฐอเมริกา เดินทางเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์สารคดีเสียงในฟิล์มเป็นครั้งแรกในสยาม คณะถ่ายภาพยนตร์นี้ดีรับความอนุเคราะห์จาก พระองค์เจ้าบุรฉัตรไชยากร เสนาบดีกระทรวงพานิชย์และคมนาคมขณะนั้นให้เข้าเฝ้าฯ เพื่อบันทึกภาพยนตร์เสียง พระองค์ทรงกล่าวแนะนำประเทศสยามเป็นภาษาอังกฤษไว้ในภาพยนตร์นี้ด้วย
ยุคภาพยนตร์เสียงศรีกรุง ปี ๒๔๗๗ พี่น้องวสุวัตได้เริ่มลงมือก่อสร้างโรงถ่ายภาพยนตร์เสียงอย่างถาวรและทันสมัยใหญ่โตขึ้นที่บริเวณทุ่งนา ชานพระนคร (บริเวณปากซอยอโศก ถนนสุขุมวิท ปัจจุบัน) ซึ่งเวลานั้นเรียกว่า ทุ่งบางกะปิ และในระหว่างนี้ คณะพี่น้องวสุวัตได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลประชาธิปไตยขณะนั้นให้จัดสร้างภาพยนตร์เสียงเรื่อง “เลือดทหารไทย”
บริษัทไทยฟิล์มและผู้สร้างอื่นๆ บริษัทไทยฟิล์มและผู้สร้างอื่นๆ ในปี ๒๔๘๐ ในขณะที่บริษัทภาพยนตร์เสียงศรีกรุงกำลังเฟื่องฟูอยู่นั้น ได้มีคณะคนไทยอีกกลุ่มหนึ่งจัดตั้งบริษัทสร้างภาพยนตร์และก่อสร้างโรงถ่ายภาพยนตร์เสียงที่ได้มาตรฐานสมบูรณ์แบบขึ้นอีกแห่งหนึ่ง อยู่ที่ทุ่งมหาเมฆ ชานพระนครเช่นกัน
กำเนิดภาพยนตร์ไทยพากย์ แต่เดิมมาการฉายภาพยนตร์ในสยามไม่มีการพากย์ใดๆในสมัยภาพยนตร์เงียบ ทางโรงภาพยนตร์จะจัดพิมพ์ใบปลิวซึ่งแจ้งโปรแกรมฉายภาพยนตร์และเล่าเรื่องย่อเป็นภาษาไทยและจีน ต่อมามีการตีพิมพ์เรื่องย่อภาพยนตร์ตามหน้าหนังสือพิมพ์กระทั่งตีพิมพ์เป็นหนังสือเล่มเล็กๆ ออกจำหน่ายด้วย ในปี ๒๔๗๑
ภาพยนตร์ไทยยุคหลังสงครามระยะฟื้นตัว เมื่อสงครามโลกครั้งที่ ๒ ยุติลงในปี ๒๔๘๘ ประเทศไทยรอดพ้นจากการเป็นประเทศแพ้สงคราม เพราะขบวนการเสรีไทยและความสนับสนุนของสหรัฐอเมริกา กิจการต่างๆของประเทศจึงค่อยๆ ฟื้นตัว
การฟิ้นตัวของภาพยนตร์ไทยเสียงในฟิล์ม ปี ๒๔๙๖ รัตน์ เปสตันยี ได้จัดตั้งบริษัทหนุมานภาพยนตร์และสร้างโรงถ่ายภาพยนตร์เสียงมาตรฐานสากลที่ถนนวิทยุย่านเพลินจิต บริษัทได้สร้างภาพยนตร์ไทยระบบ ๓๕ มิลลิเมตร เสียงในฟิล์ม สีธรรมชาติ เรื่อง “สันติ-วีณา” ออกฉายครั้งแรกในปี ๒๔๙๗
ภาพยนตร์ไทย ยุค มิตร-เพชรา เมื่อโครงการจัดตั้งองค์การผลิตภาพยนตร์แห่งชาติล้มไปการพัฒนาภาพยนตร์ไทยก็เป็นไปเองตามยถากรรมอีก ประเทศไทยสมัยที่ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นยุคสมัยแห่งการเร่งรัดพัฒนาประเทศโดยได้รับความช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆจากสหรัฐอเมริกาอย่างเต็มที่