เพลงลูกทุ่ง เพลงลูกกรุง และเพลงฝรั่ง ตอนที่ 1

 

สี่สิบปีก่อน ตอนเริ่มรู้ความ ผมได้ฟังเพลงจากรายการวิทยุที่พี่ชายและพี่สาวเปิดฟังอยู่บ่อยๆ เพลงที่ได้ฟังส่วนใหญ่เป็นเพลงลูกกรุงและเพลงฝรั่ง

นักร้องลูกกรุงที่ดังที่สุดคือ ธานินทร์ อินทรเทพ รองลงมาคือ ชรัมภ์ เทพชัย  เพลง “ทุกวันฉันนั่งหลังพวงมาลัย ขับขี่รถไปอยู่กลางถนน….”  ใครๆก็ร้องได้กันทั้งเมือง เวลานั้นเลยยุคสูงสุดของสุเทพ วงศ์คำแหงไปแล้ว ส่วนนักร้องหญิงที่ดังมากคือ ดาวใจ ไพจิตร

 

ตอนนั้น The Beatles เพิ่งแตกวง กระแสเสียงเพลงของ The Beatles ยังดังอยู่มาก สถานีวิทยุเพลงฝรั่งเปิดกันทุกสถานี เพลงป๊อบทั่วไปอย่างอีกหลายเพลงของนักร้องยุค 70 ล้วนแล้วแต่คุ้นหูผมมาตลอด Only Sixteen, Kiss And Say Goodbye, The Most Beautiful Girl หรือเพลงที่แรงขึ้นมาหน่อยก็ Free me, Lighting Bar Blues และ Go ของนักร้องสาว ทีน่า ชาร์ลส อ้อ ที่ลืมไม่ได้คือ Bee Gees

 

 

ช่วงสงครามเวียดนาม รัฐบาลไทยให้กองทัพสหรัฐใช้ประเทศไทยตั้งฐานทัพ ทหารจีไอจึงเดินเต็มบ้านเต็มเมือง ส่วนใหญ่อยู่ทางอีสาน พอจีไอมา ไนท์คลับ บาร์ ก็ตามมา ศัพท์คำหนึ่งที่เกิดขึ้นในยุคนั้นคือ “เมียเช่า” หมายความว่าอย่างไรทุกท่านคงเข้าใจดี แต่เมื่อทหารจีไอถอนทัพกลับ ศัพท์คำนี้ก็หายไป เดี๋ยวนี้ไม่มีใครใช้กันแล้ว

เมื่อมีบาร์ก็ต้องมีวงดนตรี คนไทยที่มีฝีมือทางดนตรีหลายคนรวมตัวกันตั้งวงเล่นเพลงฝรั่งตามไนท์คลับ ที่ฝีมือดีหน่อยพอเป็นที่รู้จักในวงกว้างก็คือ The Impossible นักร้องนำคือเศรษฐา ศิระฉายา ที่ยังอยู่ในวงการบันเทิงมาจนทุกวันนี้ และ PM 5 ของ ดอน สอนระเบียบ ที่ยังร้ิองเพลงต่อมาอีกหลายปี  มีอีกวงหนึ่งที่ผมจำชื่อได้คุ้นๆคือ Chocolate นักร้องนำ ชื่อคำรณ อุมาเนตร ที่ไม่มีใครรู้จักซักกี่คน ผมยังงงว่าจำได้ยังไง

 

สมัยนั้นวงดนตรีแบบนี้ชาวบ้านเรียกว่าวง Shadow ซึ่งที่จริงเป็นชื่อวงดนตรีฝรั่งที่ดังมาก และเคยเป็นวง แบ็คอัพ ให้ คลิฟ ริชาร์ด นักร้องอังกฤษที่ดังตามหลัง เอลวิส เพรสลี่ย์มาติดๆ

คำที่เป็นทางการคือ วงประเภท String Combo หมายถึงวงเครื่องสายผสม เครื่องสายก็คือกีตาร์ และเบส  ผสม คีย์บอร์ด เครื่องให้จังหวะ และเครื่องเป่าที่มักจะมีสามชิ้นคือ แซกโซโฟน ทรัมเป็ต และ ทรอมโบน

นี้แหละครับ ที่มาของคำว่า เพลงสตริงในทุกวันนี้

ว่างมากก็เลยนั่งนึกถึงเรื่องสมัยเด็กๆ จำได้บ้างไม่ได้บ้าง ผิดบ้างถูกบ้าง สลับเวลากันบ้าง อย่าถือสา ภาษาฝรั่งเรียก Take a trip down the memory lane เล่าให้ฟังกันเล่นๆครับ

 

 

Author : Somsak Wongsirisup

นักออกแบบและนักธุรกิจผู้มีเสียงดนตรีในหัวใจ นอกจากจะมีพรสวรรค์ทั้งการร้องและการเล่นดนตรีสากลแล้ว ยังเป็นนักฟังเพลงที่มีความรู้ในประวัติศาสตร์ดนตรีอย่างดีเยี่ยม และสามารถถ่ายทอดเรื่องราวทางดนตรีแห่งยุคสมัยที่ชื่นชอบให้อ่านกันได้อย่างสนุกเปี่ยมสาระ
https://www.facebook.com/somsak.wongsirisup

You may also like...