Snow White and the Huntsman สโนว์ไวท์กับพรานถือขวาน

หลังจากปีก่อนมีหนูน้อยหมวกแดงเวอร์ชั่นมนุษย์หมาป่ามาแล้ว ล่าสุดฮอลลีวู้ดจึงลองจัดการยกเครื่อง นิทานอันดับต้นๆของโลกอย่าง สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด ดูบ้าง Snow White เป็นเรื่องเล่าที่นิยมจนแต่ละชาตินำไปแต่งให้เข้ากับชาติตัวเอง โด่งดังขึ้นเมื่อเมื่อ วอลต์ดิสนีย์ นำไปสร้างเป็นภาพยนตร์การ์ตูน ซึ่งถือเป็นนิทานเรื่องแรกที่ถูกสร้างผ่านแผ่นฟิล์มเพื่อเข้าฉายในโรง

มาถึง Snow White and the Huntsman ฉบับหนังสือ นักเขียนต้องการให้หนังเข้ากับยุคสมัย จึงทำให้สาวน้อยอันบอบบางอย่าง สโนว์ไวท์หลุดจากชุดราตรียาวมาใส่เสื้อเกราะถือดาบต่อสู้กับความชั่วร้ายแทน ส่วนฉบับภาพยนตร์ได้ รูเพิร์ด แซนเดอร์ มาเป็นผู้กำกับ

ตัวหนังเล่าถึง สโนว์ไวท์ เจ้าหญิงตัวน้อยที่ต้องมาเสียแม่ไป ไม่นานพระราชาที่เป็นพระบิดาได้พบกับสาวงามลึกลับคนหนึ่งนามว่าราเวนน่า ทรงรับเธอไว้เป็นราชินีองค์ใหม่ แต่ไม่ทันข้ามคืนพระราชาก็สิ้นพระชมน์ ราชินีราเวนน่า ยึดครองปราสาทและขัง สโนว์ไวท์ ไว้บนหอคอย

เวลาผ่านไป อาณาจักรเข้าสู่ยุคมืดโดยการกดขี่ของ ราชินีราเวนน่า( ชาร์ลีซ เธอรอน) กับ ฟินด์ (แซม สเปอร์แรล) น้องชาย และกองทัพสีดำของเธอ แถมยังมีกระจกวิเศษที่คอยให้คำปรึกษา เธอคงสภาพสาวตลอดกาลด้วยการดูดพลังชีวิตจากหญิงสาวในเมืองที่ถูกจับตัวมาเป็นเหยื่อ วันหนึ่งกระจกบอกราชินีว่า มีคนที่งามเลิศกว่าและจะมาโค่นอำนาจเธอ ทางเดียวที่จะแก้ไขคือกำจัดเธอซะ ราชินีแม่มดส่งน้องชายไปนำตัว สโนว์ไวท์ (คริสเต็น สต๊วจ) ซึ่งบัดนี้โตเป็นสาวมาให้เธอ ทว่าเขาพลาดท่าปล่อยให้เจ้าหญิงหนีไปได้

พรานป่า (คริส เฮมส์เวิร์ธ) ผู้สูญเสียภรรยาถูกบังคับให้นำทางทหารราชินีเข้าไปจับตัว สโนว์ไวท์ ในป่าเวทมนต์ แต่พอพบตัวเธอ นายพรานกลับช่วย สโนว์ไวท์ หนีเข้าไปจนได้พบกับคนเคราะกลุ่มหนึ่ง ฟาก วิลเลี่ยมส์(แซม คลาฟินด์) ลูกชายของขุนนางผู้ซื่อสัตย์ เพื่อนวัยเด็กของ แอบแฝงตัว เข้าไปในกองทัพดำเพื่อสืบหา สโนว์ไวท์ กลุ่มของนายพรานปะทะกับกองทัพดำ กัส คนเคราะห์ 1 ใน 8 พลีชีพเพื่อ สโนว์ไวท์ เจ้าหญิงได้พบกับสหายในวัยเยาว์ ระหว่างทางไปปราสาทของพ่อวิลเลี่ยมส์ฐานที่มั่นสุดท้ายของกองกำลังที่ภักดีต่อกษัตริย์ สโนว์ไวท์ กินแอปเปิ้ลอาบยาพิษจนหมดสติไป

Snow White and the Huntsman นับว่าสร้างความประทับใจให้ผู้ชมได้ดีเกินคาด โปรดักต์ชั่นการถ่ายทำดีจนหลายคนอดนึกถึง The lord of the ring ไม่ได้ ทั้งเสื้อผ้าหน้าผมเครื่องแต่งกาย โดยเฉพาะสัตว์ในเทพนิยายในป่าที่สร้างความตื่นตาตื่นใจ งดงามมาก ส่วนคนเคราะเหมือนเป็นการทำความคุ้นเคยก่อน The Hobbit เข้าฉาย

ตัวบทดังแปลงจากวรรณกรรมเล็กน้อย ค่อนข้างปูแบล็กกราวด์ราชินีแม่มดมากพอสมควร จึงเหมือนส่งให้ ชาร์ลีซ เธอรอน โชว์ฝีมือการแสดงได้อย่างเต็มที่ ผิดกับ สโนว์ไวท์ คริสเต็น สต๊วจ แม้เธอจะเข้าตำรา ผิวขาวเหมือนหิมะ ปากแดงเหมือนหยดเลือด ผมดกดำเหมือนขนกา แต่เธอยังคงติดท่าสาวขึ้ระแวงจากVampire twilight การแสดงจึงดูคล้ายยังไม่ถึง ขาดๆเกินๆตลอดเรื่อง

ด้านฝ่ายชาย คริส เฮมส์เวิร์ธ พรานถือขวานแสดงดีจนเบียด แซม คลาฟินด์ นักรบถือธนุสุดเท่ห์ตกขอบทางไป เสียดายที่ความสัมพันธ์ลึกซึ้งของ พรานป่ากับสโนว์ไวท์ ถูกกดให้เป็นความลับ เหมือนคนเขียนไม่กล้าพอที่จะให้พรานป่าผงาดเป็นราชา

ถือว่าสอบผ่านสำหรับการเป็นหนังพีเรียดแฟนตาซีที่เปี่ยมลํ้าจินตนาการ แต่ก็ยังต้องขอเตือนผู้ที่ไม่ชอบหนังแนวนี้แล้วเข้าใจว่าจะมี ฉากบู๊ล้างผลาญ ฟันกันเลือดสาด Snow White and the Huntsman คงไม่ใช่ทางของคุณ

by: นกไซเบอร์

edit @ 27 Jun 2012 11:29:17

ติดตามต่อได้ที่ : http://cyberbird.exteen.com/20120626/snow-white-and-the-huntsman-3

สิทธิโชติ สุภาวรรณ์ (นกไซเบอร์ )

 

เรียนจบด้านขีดๆเขียนๆ ตอนนี้ทำงานเกี่ยวกับโลกไซเบอร์ เป็นคนชอบดูหนังมาก ดูได้ทุกแนว เมื่อดูจบแล้วมีอะไรค้างคาในใจก็จะมาระบายออกลงในบล็อกส่วนตัวเงียบๆ ใช้นามปากกาว่า นกไซเบอร์

You may also like...