ผู้คนในแวดวงศิลปะบ้านเราคงโล่งใจอยู่ไม่น้อย ที่บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง ปตท.ที่ ได้เปิดพื้นที่ให้รุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ รุ่นไหนๆ ได้มีเวทีประกวดงานศิลปะมาถึง ครั้งที่ 27 แล้ว โดยคราวนี้ทาง ปตท. ได้กำหนดหัวข้อ “บ้านสีเขียว โลกสีเขียว Green Living : Saving the Earth” เปิดโอกาสให้สร้างสรรค์งานศิลปะที่เกิดจากแนวคิด จินตนาการ ประสบการณ์ของเราเอง ผ่านหัวข้อดังกล่าว
เพื่อร่วมจรรโลงโลกของเราให้น่าสวยสดงดงามและน่าอยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ดีสืบต่อไป การแข่งขันเข้มข้นจนถึงรอบตัดสิน เพราะมีท่านที่สนใจส่งงานเข้าประกวดประชันกันมากมายหลายสำนัก แต่ในที่สุดการแข่งขันก็ต้องมีผู้ชนะเลิศ ในวันพระราชทานรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวดโดย พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เราได้พบปะศิลปินทุกท่านที่ได้รับรางวัล อดไม่ได้ที่จะเข้าไปถามไถ่ถึงความสำเร็จในครั้งนี้
เริ่มจากรางวัลยอดเยี่ยมที่ชื่อว่า “ธรรมชาติ บ้านที่สงบสุข” ของคุณ หมู ชัชวาลย์ วรรณโพธิ์ ซึ่งเรียนจบปริญญาโทที่ศิลปากรสาขาภาพพิมพ์ หลังจากเรียนจบอาชีพของคุณหมูคือศิลปินวาดภาพนี่แหล่ะ ซึ่งแรงบันดาลใจในการสร้างงานศิลปะของเขาก็คือครูบาอาจารย์แทบทุกคน และแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้ของเขามาจากธรรมชาติซึ่งเปรียบเสมือนเงา ที่สื่อถึงเรื่องราว และทุกสิ่งมันเป็นกฎเกณฑ์ธรรมชาติง่ายๆ
มีแล้วก็หายไป แต่ปัจจุบันมนุษย์เรารุกรานธรรมชาติ และไม่ให้ความเคารพ โดยใช้ทรัพยากรเยอะมากเกินไป คนเยอะขึ้นความอุดมสมบูรณ์มันก็เลยหายไป ผมรู้สึกว่าเรารุกรานธรรมชาติ ไม่ให้ความเคารพ ใช้ทรัพยากรเยอะมากคนเยอะขึ้นความอุดมสมบูรณ์มันหายไป
คุณหมูยังปิดท้ายไว้น่าฟังว่า บ้านเราพื้นที่ในการแสดงศิลปะมีน้อย แต่พื้นที่เวทีนี้ของ ปตท.ได้เปิดโอกาสให้คนมาแสดงความสามารถได้เต็มที่ เป็นกิจกรรมที่ดีมากจริงๆ
ผลงานชิ้นถัดมาเป็นของคุณกำ บุญนำ สาสุด ชื่อผลงานว่า “พื้นที่แห่งรักในสายฝน” แรงบันดาลใจของเขามาจากสภาพแวดล้อมที่มนุษย์เรามีชีวิตเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ เขาเฝ้าดู เฝ้าสังเกตการณ์ต่างๆจึงเห็นว่าเราเป็นเพียวมนุษย์ตัวเล็กๆที่อยู่ในธรรมชาติ ซึ่งทำอะไรไม่ได้มากกว่านี้ ได้แต่เฝ้าดู เฝ้ารอคอยมองถึงฤดูกาลการเปลี่ยนแปลงต่างๆที่เกิดขึ้น และยังได้เฝ้าดูความงามที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ
ปัจจุบันคุณกำเป็นศิลปินทำงานศิลปะที่บ้านเกิด อำนาจเจริญ เขาฝากขอบคุณเวทีการประกวดของ ปตท. ที่สนับสนุนศิลปิน ทั้งรุ่นใหญ่ รุนเล็ก ระดับประถม อนุบาล ฯลฯ เพื่อที่เขาเหล่านั้นจะได้ก้าวเข้ามาเป็นศิลปินที่มีคุณภาพต่อไปในอนาคต
คุณกำยังพูดถึงธรรมชาติสีเขียวไว้อย่างน่าคิดว่า ธรรมชาติเป็นเหมือนบ้านของเรา เราต้องดูแลบ้านให้ดี ดูแลบ้านให้สะอาด เราอย่าทำร้ายธรรมชาติ ตัดต้นไม้ หรือสร้างมลพิษต่างๆ เราสร้างมลพิษเท่าไหร่ ก็เหมือนเราทำลายทำร้ายบ้านของเราเอง
สมแล้วที่เคยส่งงานเข้าประกวดถึงเจ็ดครั้งเจ็ดคราว และกวาดรางวัลมาแล้วตั้ง 4 ครั้ง คุณบุญนำ สาสุด
ถัดมาเราได้พบกับคุณสุรศักดิ์ สอนเสนา เจ้าของผลงาน“ผู้ให้ชีวิตหมายเลข 2” แรงบันดาลใจเบื้องต้นของคุณสุรศักดิ์เกิดขึ้นเพราะตอนที่เขาไปนั่งอยู่ใต้ต้นไม้เพื่อหลบแดด ความรู้สึกเย็นจากสายลมจากเงาที่ทอดลงมาสู่เบื้องล่างเป็นความรู้สึกที่มันสงบนิ่ง พอเขามองขึ้นไปข้างบนเห็นกิ่งไม้แผ่คลุมสูง ทำให้รู้สึกว่าธรรมชาติเป็นผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่เหลือเกิน และไม่ๆได้ให้เราคนเดียว มนุษย์ สัตว์ต่างๆก็ได้อาศัยร่มเงา ความเย็นสบายนี้เช่นเดียวกับตัวเขา สุรศักดิ์จึงได้สร้างสรรค์ผลงานนี้ขึ้นมา และตอนนี้เขากำลังศึกษาปริญญาโท สาขาทัศนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากรอยู่ ผลงานที่ผ่านมาของเขามีมากมาย ได้ร่วมแสดงผลงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ
เขาได้ฝากขอบคุณ ปตท.ที่เปิดโอกาสให้ศิลปินได้แสดงออกในเรื่องของศิลปะ ในหัวข้อ “บ้านสีเขียว โลกสีเขียว” เพราะงานศิลปะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยนำเสนอสังคมให้คนภายนอกได้เห็นถึงความสำคัญในธรรมชาติ รักหวงแหน และช่วยกันดำรงรักษาไว้ เพราะทุกวันนี้หลายอย่างผันเปลี่ยนไปตามกาลเวลา แน่นอนว่าเทคโนโลยีสมัยใหม่เบียดเบียนธรรมชาติมาก แต่ถ้าเราได้เห็นว่าว่าธรรมชาติเป็นผู้ให้ เราก็จะช่วยกันรักษาเค้าไปนานๆ อนาคตของหนุ่มคนนี้แน่นอนต้องทำงานศิลปะต่อไปและอาจจะเป็นอาจารย์หรือศิลปินในอนาคต
สุรศักดิ์ทิ้งท้ายไว้อย่างน่าฟังว่า การที่เขาได้ทำงานชิ้นนี้จึงประทับใจในธรรมชาติและความเรียบง่าย ถ้ามนุษย์เราลองหยุดมองเรื่องที่ใกล้ตัว
มองในเรื่องที่พอเพียง ก็จะประสบความสุขในชีวิตได้ เราเชื่อว่าเขาจะเป็นอาจารย์หรือศิลปินที่ดีได้อย่างแน่นอน
ถัดมาเราได้เห็นต้นไม้สีขาวสะดุดตาของ ไปรยา เกตุกูล นักศึกษาคณะจิตรกรรม ประติมากรรม และภาพพิมพ์ที่ศิลปากร ปี 5 ซึ่งได้รางวัลดีเด่น ชื่อผลงาน “ดอกไม้สีขาว”
แรงบันดาลใจของเธอเกิดจากการเล็งเห็นคุณค่าของสิ่งเล็กๆ อาทิ เช่น ดอกไม้ริมทาง เลยอยากดอกไม้เหล่านี้มีคุณค่ามากขึ้น เธอจึงนำเสนอสิ่งเล็กๆสิ่งนี้ที่เป็นเหมือนที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนเมือง สื่อออกมาให้คนเมืองได้รับรู้ว่าสิ่งเล็กๆก็มีคุณค่า และในปัจจุบันนี้ผู้คนจะมองข้ามสิ่งเล็กๆหรือว่าใกล้ตัวไป ส่วนมากจะมองภาพรวมของสิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นป่าไม้ ภูเขาแต่เธอไม่อยากให้ลืมสิ่งเล็กๆใกล้ตัว เพราะถ้าเราเห็นคุณค่าช่วยกันดูแลรักษา เริ่มต้นตั้งแต่ดูแลสิ่งเล็กๆมันจะนำไปสู่สิ่งที่ยิ่งใหญ่
เธอฝากขอบคุณโครงการปตท. ที่ทำให้นักศึกษาที่เรียนทางด้านศิลปะมีพื้นที่มีเวทีแสดงออก และยิ่งถ้าเป็นโครงการที่เกี่ยวกับธรรมชาติ ถือเป็นเรื่องที่ดี จะสนับสนุนทำให้ผู้คนเกิดความรักในธรรมชาติมากขึ้น
คราวนี้เรามาฟังเด็กน้อยๆกันบ้าง ว่าพวกเขามีแรงบันดาลใจอะไรในการสร้างสรรค์งานศิลปะแบบฝีมือไม่เด็กเลยซักนิด เริ่มจากน้องปาป้า ฐนกร เทียงดา ปาป้า ผลงานของน้องชื่อ “เก็บผลกิน”
น้องปาป้าอายุเพียง 8 ขวบเท่านั้น แต่น้องปาป้ารู้สึกว่าโลกร้อนขึ้นทุกวัน จึงชวนว่าพวกเราควรที่จะหันมาปลูกต้นไม้กันเยอะๆเพื่อให้โลกหยุดร้อน เพราะคุณประโยชน์ของต้นไม้นั้นทั้งให้อากาศและผลไม้ให้เรากิน คุณพ่อของน้องปาป้าได้ให้น้องเรียนกับคุณครูวัฒน์ซึ่งเป็นศิลปินและเปิดโรงเรียนสอนศิลปะได้คุณครูที่สนับสนุนทางด้านศิลปะโดยเฉพาะ น้องปาป้าดีใจและภาคภูมิใจมากในครั้งนี้ แต่เราแอบรู้มาว่าน้องได้รางวัลยอดเยี่ยมมาสองปีซ้อนแล้ว อนาคตน้องปาป้าอยากเป็นศิลปินวากภาพเหมือนอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์
แหม กวาดรางวัลมามากมายขนาดนี้ อนาคตได้เป็นอาจารย์เฉลิมชัย 2 แน่นอน
ต่อมาเราได้เห็นผลงานที่น่าประทับใจอีกภาพนึง ซึ่งได้รางวัลยอดเยี่ยมของน้องกีกี้ พลอยไพลิน คนเที่ยง ชื่อภาพ “รักษ์โลกสีเขียว รักษ์บ้านสีเขียว”
น้องกีกี้ ศึกษาอยู่ที่อัสสัมชัญศึกษา ชั้นประถมปีที่ 6 แรงบันดาลใจของน้องมาจาก อยากให้คนปลูกต้นไม้เยอะๆ เลิกจากการทะเลาะกันมาปลูกต้นไม้ดีกว่า โชคดีที่น้องกีกี้ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากครอบครัว ผลงานที่ได้จึงออกมาน่าประทับใจจริงๆ
ถัดมาเป็นผลงานรางวัลยอดเยี่ยม “บันทึกธรรมชาติ”ของน้องนัตตี้ ณัฐนิชา กรกิ่งมาลา ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ที่สาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม แรงบันดาลใจของน้องมาจากการไปเที่ยวกับครอบครัวไดเห็นธรรมชาติ จึงบันทึกธรรมชาติไว้ บันทึกความประทับใจ ที่ได้ไปเที่ยว ไปเห็น และทางครอบครัวยินดีที่จะสนับสนุนเต็มที่ งานอดิเรกของน้องนัตตี้นอกจากวาดรูปแล้ว ยังเล่นกีฬาเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงอีกด้วย สมกับเป็นเด็กรุ่นใหม่จริงๆ
ทั้งนี้ผลการตัดสินการประกวดฯ ติกประกาศไว้ ณ หอศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ และที่เว็บไซต์ www.pttplc.com ซึี่งผลงานที่ชนะการประกวดและผลงานที่ผ่านการพิจารณาเข้ารอบจะจัดแสดง ณ หอศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ ถนนหน้าพระลาน กรุงเทพฯ ในเดื่อนกรกฎาคม 2555
