Enki Bilal

เอนกิ บิลัล  ปีศาจหรือเทพเจ้า…..
ภาพซูเปอร์ฮีโร่ในใจของใครหลายคน คงหมายถึง ชายหนุ่มร่างกำยำมีพลังมหาศาล ปีนตึก ยกรถ ทำลายภูเขาได้ทั้งลูก แถมหน้าตาต้องหล่อเหลาสุดขีด แน่นอน คุณคงไม่พบพระเอกเหล่านี้ในตัวละครของ เอนกิ บิลัล เทพเจ้าแห่งศิลป์คนนี้แน่ เพราะตัวละครที่เป็นพระเอกของเขาเหล่านั้น ล้วนเป็นบุรุษที่แสนธรรมดาหรือจำพวก Anty-Hero โดยสมบูรณ์แบบ


ผลงานการ์ตูนสุดพิเศษของ เอนกิ บิลัล คงไม่เป็นที่คุ้นหูคุ้นตาของคนไทยนัก แต่หากเอ่ยถึงภาพยนต์เรื่อง Tykho Moon (ปี 1996) Bunker Palace Hotel (ปี 1989) และ Immortel (ปี 2004) เราๆท่านๆคงจะพอนึกออก เพราะเขามีส่วนในการออกแบบฉากและเป็นผู้กำกับเต็มตัว

เอนกิ บิลัล เป็นชาวยูโกสลาเวีย ซึ่งย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และร่ำเรียนศิลปะที่โบชาร์ต ผลงานการ์ตูนเรื่องแรกของเขาได้รับการตีพิมพ์เมื่อเขาอายุเพียง 21 ปีเท่านั้น  โดยได้รับการสนับสนุนจากนักวาดการ์ตูนเลื่องชื่อ เรอเน โกซินนี และนำไปสู่การสร้างสรรค์ผลงานที่กลายเป็นมหากาพย์อีกหลายเรื่องในเวลาต่อมา นอกจากผลงานการ์ตูนที่แฝงไปด้วยปรัชญาอันพิลึกพิลั่นและรุ่มรวยด้วยจินตนาการอันไร้ขีดจำกัดแล้ว บิลัลยังสร้างสรรค์งานศิลปะสื่อผสมที่แปลกแหวกแนว ซึ่งสามารถสะท้อนภาพความเป็นคนสุดโต่งและเป็นหัวหอกของวงการศิลปะได้อย่างชัดเจน จึงไม่น่าแปลกใจที่บิลัล เป็นศิลปินชั้นแนวหน้าของฝรั่งเศสไปโดยปริยาย หนำซ้ำคนฝรั่งเศลยังยกย่องเขาประดุจดังเทพเจ้าเลยทีเดียว

ผลงานของบิลัลที่คนไทยเรารู้จักดี คือ ไตรภาคนิโกลโปล มหากาพย์ไซไฟ-แฟนตาซีสายพันธุ์ใหม่ ที่ผสมผสานระหว่างวรรณกรรมและการ์ตูน จนสร้างปรากฏการณ์ลือลั่นมาแล้วทั่วโลก ความแปลกใหม่การดำเนินเรื่องอันพิลึกพิลั่น ตัวละครที่มีสีสันสุดประหลาด ทำให้ไตรภาคนิโกลโปลเป็นที่กล่าวขานถึงจินตนาการอันไร้ขีดจำกัดของเขา หากแต่ถ้าเรามองอีกด้านที่ไม่ใช่ในฐานะของเทพเจ้าที่สร้างสรรค์ผลงาน ผลงานของเขากลับดูลึกลับซับซ้อน อาจไม่ยากถึงขั้นปีนบันไดดู แต่ถ้าไม่ใช่นักนิยมตีความ มหากาพย์ที่ดังข้ามทวีปนี้คงยากแก่การเข้าใจได้ง่ายและถ่องแท้

ฉันใดก็ฉันนั้น ศิลปินที่มักเป็นหัวหอกในการสร้างงานศิลปะอย่างสุดโต่ง ล้วนมีแง่มุมชีวิตที่น่าสนใจและน่าค้นหา แต่คงยากที่ใครจะเข้าใจและเข้าถึงตัวตนที่เป็นเปลือกแท้ของเขา กระนั้นก็ตามพวกเขาต่างก็คงไม่ยอมเปิดเผยตัวตน ความรู้สึก ความต้องการของเขาให้ชาวโลกได้พบเห็นบ่อยนัก สิ่งที่ปลอดภัยที่สุดคือการถ่ายทอดลงบนชิ้นงาน ที่เป็นเสมือนภาพตัวแทนของเขาราวกับจะตะโกนให้โลกรู้ว่านี่แหละคือร่างที่สองของฉัน คือความต้องการของฉัน คือความปรารถนาของฉัน ซึ่งไม่มีความจำเป็นที่คุณหรือใครจะต้องเข้าใจมันทั้งหมดหรอก ภาพบางภาพอาจใช้เวลากว่าค่อนศตวรรษถึงจะโด่งดังเป็นพลุแตก มีมูลค่าสิบยี่สิบล้าน ผลงานบางชิ้นอาจต้องใช้เวลาเข้าใจมันหลังจากผ่านไปซักสามสิบปีสี่สิบปีหรือมากกว่านั้น ไม่ต่างอะไรกับงานของเอนกิ บิลัล เมื่อคุณได้สัมผัส อ่านอย่างละเลียด หรือดูอย่างสะใจจนจบแล้ว คุณอาจไม่เชื่อก็ได้ว่านี่เป็นผลงานของเทพเจ้า

เพราะเรื่องราวและภาพบางภาพของเขากลับสะท้อนเงาของปีศาจที่น่าเกรงขาม และยิ่งใหญ่ที่สุดในศตวรรษนี้ออกมาอย่างชัดเจน

 

Text :  Tul Tacit

 

You may also like...