เป็นเรื่องจริงที่ต้องยอมรับว่า การที่ใครสักคนจะลุกขึ้นมาผลิตสื่อ หรือเป็นเจ้าของสื่อ ในยุคนี้ดูเหมือนจะไม่ยากเย็น
ใช่แล้วค่ะ เรากำลังพูดถึงยุคสมัยที่ใครๆ ก็อาจมีทีวีออนไลน์ วิทยุออนไลน์ หรือนิตยสารออนไลน์ เป็นของตัวเองได้ในชั่วข้ามคืน
แต่หากลองคิดถึงปริมาณของภาพยนตร์ บทเพลง หรือภาพวาดจำนวนมหาศาลที่ถูกสร้างขึ้นมาในโลกนี้ ซึ่งแน่นอนว่า ใครๆ ก็สามารถมีกล้องถ่ายหนังได้ สามารถบันทึกเพลงได้ วาดรูปได้ เขียนหนังสือได้ ก็ใช่ว่า ทุกคนจะเป็นศิลปินกันได้หมด
และยิ่งตีกรอบแคบเข้ามาถึงกลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่าศิลปินอาชีพ เพราะผลิตงานศิลปะเพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ไม่ได้เป็นหมอ เป็นนักการเงิน หรือเป็นแม่ค้าข้าวแกง ก็เหลือจำนวนศิลปินที่ประสบความสำเร็จได้รับการยอมรับจากสาธารณชนจริงๆ อยู่น้อยเต็มที
การวาดภาพหรือถ่ายหนังเป็นงานอดิเรก กับการทำเพื่อเลี้ยงชีพนั้นมีเงื่อนไขต่างกัน แม้เป้าหมายในการทำงานศิลปะจะไม่ต่างกัน คือเพื่อสร้างงานที่มีคุณค่า แต่หากจะให้ศิลปะเลี้ยงปากเลี้ยงท้องแล้ว งานนั้นจะต้องมี ‘ราคา’ ด้วย
ดิฉันทำสื่อศิลปะ ArtBangkok.com รับใช้สังคมศิลปะ…แบบหวานเย็นมากว่าครึ่งทศวรรษ
ไม่ได้ทำเ็ป็นงานอดิเรก และไม่ได้ทำเป็นอาชีพ ทำด้วยความจริงจังที่สุด เท่าที่เรี่ยวแรงของมนุษย์คนหนึ่งจะทำได้โดยไม่ต้องพึ่งใคร ไม่ต้องเบียดเบียนใคร
และไม่ต้องโฆษณา ขายโน่นขายนี่ควบไปด้วยเพื่อความอยู่รอด
ไม่มีใครมาขอร้อง ไม่มีใครมาบังคับให้ทำ
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เราได้รับเสียงเรียกร้องจากผู้อ่านให้เร่งสปีดการอัพเดต ให้พัฒนาเว็บให้ทันสมัย เพิ่มข้อมูลให้แน่นปึ้ก
และเรา…หรือดิฉัน ก็รู้สึกว่า เสียงเรียกร้องเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ดิฉันต้องรับผิดชอบให้ได้ เพราะเมื่อริอ่านจะเป็น’สื่อ’ แล้ว ไม่ว่าจะโดยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ เราย่อมมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบต่อสังคมโดยอัตโนมัติ
ปีนี้เป็นปีที่ใครๆ ต้องต่อสู้ฝ่าฟันวิกฤตเศรษฐกิจ ดิฉันเองก็ไม่ได้รับการยกเว้น
สื่อศิลปะที่ทำมาด้วยเรี่ยวแรงตัวเอง แบบเรื่อยๆ มาเรียงๆ ไม่ค้าไม่ขายอะไร
จึงถูกจับแต่งตัว พาไปหาสปอนเซอร์ เพื่อระดมเงินมาจ้างคนอัพเดต และปรับปรุงเว็บให้มีระบบที่ทันสมัยขึ้น ง่ายแก่การใส่ข้อมูล และง่ายต่อการสืบค้น
ยิ่งไปกว่านั้น เราหวังว่า จะมีเนื้อหาเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อให้ชาวโลกได้รู้เรื่องศิลปะในประเทศไทยมากขึ้น เพิ่มช่องทางการค้าขายให้กับศิลปะไทย…ถ้าเราทำได้
ดิฉันไม่ได้คาดหวังว่า สื่อศิลปะออนไลน์ ArtBangkok.com จะต้องได้รับการอุ้มชูจากคหบดีตระกูลใดอย่างเป็นทางการ แต่หากเป็นไปได้ อยากให้หน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่ส่งเสริมศิลปะโดยตรง หันมาเหลียวแลคนทำสื่อศิลปะ นอกเหนือจากการสนับสนุนวงการศิลปะในรูปแบบอื่นๆ ไม่ต้องถึงขนาดอุดหนุนกันจนอ้วนปี๋มีกำไร
แค่ดูแลไม่ให้สูญหาย หรือต้องอยู่รอดด้วยการ…เขียนข่าวไป ขายโฆษณาไป
แค่นี้ก็หรูแล้ว
———————————————–