Meena 13 โปรดิวเซอร์หนุ่มไฟแรง ที่มาพร้อมดีกรี Music Technology and Sound Engineering จาก UK

มาร์ช ณฐพรรธน์ จองจตุพร หรือ Meena 13 โปรดิวเซอร์และนักดนตรีหนุ่มมากพรสวรรค์ ที่มีความสามารถหลากหลายในสายงานดนตรี ผลงานเริ่มต้นของเขาเป็นงานแนว Hip-Hop และ R&B ซึ่งด้วยความเปิดกว้างด้านรสนิยมดนตรีและการเรียนรู้ที่ไม่หยุดนิ่ง โปรดิวเซอร์หนุ่มหล่อเข้มคนนี้ยังสามารถทำเพลงได้หลากหลายแนว ทำให้เขาได้ร่วมงานอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของศิลปินมากมาย ประกอบกับแบคกราวน์ด้านการศึกษาของเขาก็ไม่ธรรมดา เพราะมาร์ชนั้นร่ำเรียนดนตรีมาโดยตรงมาในสาขา Music Technology and Sound Engineering จาก University of Birmingham ประเทศอังกฤษ แนวดนตรีของเขาจึงผสมผสานสไตล์ทั้งความเป็นเอเชียและความเป็นตะวันตกในแบบร่วมสมัยได้อย่างลงตัว

ผลงานที่ผ่านมาของมาร์ช นอกจากผลงานของตนเองแล้ว ส่วนมากจะเป็นการร่วมงานกับศิลปินหน้าใหม่ที่กำลังมาแรง ไม่ว่าจะเป็น Badbitchbkk , Panthr , Nanan , ProudSiriya และ Winjett ซึ่งนอกจากนี้ยังมีศิลปินอีกมากมายที่กำลังจะได้ร่วมงานด้วยกันในอนาคต

มาร์ช มีความถนัดและความสนใจในการทำเพลงหลากหลายรูปแบบ

“ส่วนมากจะเป็นแนว R&B , Hiphop และอีกหลายแนว เช่น Pop , Alternative , Indie ก็แล้วแต่ว่าเขาจะจ้างอะไร แต่ส่วนมากที่ถนัด จะเป็น R&B , Pop แล้วก็พวก Electronic music”

“ในด้านของดนตรีก็ produce ได้ compose ได้ mix master, edit track ใน production คือได้เยอะอยู่ ก็ไปเรื่อยๆครับพัฒนาไปเรื่อยๆ”

แรงบันดาลใจ เป้าหมาย และมุมมองความสำเร็จในชีวิต ของมาร์ชเกิดขึ้นจากความชอบส่วนตัว และความหวังที่จะทำให้ความชอบนั้นกลายเป็นส่วนหนึ่งที่ขับเคลื่อนการดำเนินชีวิต

“ผมอยากเป็นเบื้องหลังให้ศิลปินหลายๆคน ไม่จำเป็นต้องดังก็ได้ อยากให้มีชื่อผมอยู่ด้วย ไม่ต้องดังก็ได้ขอให้เราได้ทำงานในด้านนี้ เพราะส่วนตัวเราชอบดนตรีมาก”

“ตอนเริ่มเลย คือ ก่อนที่จะมาเป็นโปรดิวเซอร์ เป็นนักดนตรีก่อน จะเล่นพวกกีตาร์ เบส กลอง คีย์บอร์ด เปียโน อะไรพวกนี้ แต่ก่อนผมอาจจะเป็นแนว Alternative ผมชอบ Alternative มาก พวกวง Oasis , Fourplay , Muse นั่นคือสาเหตุหลักด้วยที่เดินทางไปอังกฤษ เพื่อไปเรียนต่อเพราะว่าวงพวกนี้ด้วย ไอดอลส่วนมากก็จะเป็นพวกมือเบสครับ เพราะว่าผมเล่นเบส ที่มาทำ Hip-Hop ก็เพราะว่าเบสด้วยเบสมันหนักดี อะไรที่เกี่ยวกับเบสผมชอบหมด”

ต่อให้ไม่ได้ทำงานในด้านดนตรีความฝันของ มาร์ช ก็ยังคงอยู่กับการทำสื่อ ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาชอบและหลงใหลอย่างแท้จริง

“อยากทำอะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับ production รู้สึกว่าเราชอบผลิตอะไรออกมาสักอย่าง ให้คนเสพผลงานเรา รู้สึกตัวเรามีความเป็นศิลปินสูงด้วย ถ้าไม่ได้ทำดนตรีก็คงวนอยู่เรื่อง production อาจจะเป็น ถ่ายรูป วิดิโอ หรืออาจจะเป็นอะไรก็ได้ที่เป็น production base”

หลายคนอาจมองว่าการจะทำตามความฝันได้นั้นมีราคาแพง ส่วนหนึ่งมักจะมาจากปัจจัยหลักคือเรื่องเงินและการสนับสนุนของครอบครัว แต่มาร์ชมองว่าตัวเราเองก็สามารถที่จะเริ่มสร้างความสำเร็จได้เช่นกัน

“หลักๆเลย Youtube ก็คือช่องทางที่เราสามารถเรียนรู้ด้านนี้ได้ถ้าไม่มีเงิน ก็จะเป็น Youtube หลักๆเลย เพราะ Youtube ก็เป็นแพลตฟอร์มแรกที่ผมได้เรียน เพราะว่าก่อนที่จะส่งพอร์ตโฟลิโอไปมหาวิทยาลัย เราต้องมีผลงานก่อน ก่อนจะมีผลงานเราก็ต้องเริ่มทำเอง พอการเริ่มทำเองเราไม่ค่อยมีความรู้ด้านนั้นก็ต้องเปิด Youtube ดู ก็ต้องเน้น Youtube ครับ Youtube มีคนสอนมากมาย แล้วก็ลองผิดลองถูกแล้วค่อยพัฒนาไปเรื่อยๆ”

มาร์ชยังบอกอีกว่าการจะประสบความสำเร็จได้นั้นไม่ได้ใช้ความสามารถเพียงอย่างเดียว แต่ยังขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตอีกด้วย

“ที่ผมคิดนะ 1.ความขยัน 2. เราต้อง stay humble 3.connection และ team work การผลิตอะไรออกมา เราไม่ควรจะทำคนเดียวเป็นหลัก เราควรมีที่ปรึกษา เราควรมีคนที่จะคอยช่วยเหลือ และช่วยให้ไอเดียเรา flow ด้วย และการ stay humble เนี่ย ทำให้เราดูถ่อมตัว ทำให้คนเข้าหาเรามากกว่า ผมรู้สึกอย่างนั้นนะ อารมณ์ประมาณนั้น หลักๆผมเชื่อว่าถ้าทุกคนขยันมันก็ไปได้ครับ”

ในส่วนของชีวิตส่วนตัว มาร์ชยังเป็นหนุ่มโสด และยังไม่มีครอบครัวของตนเอง

“ถ้าถามถึงครอบครัวตอนนี้ ผมมีแม่ครับ (หัวเราะ) แต่ครอบครัวตัวเองยังไม่มี (หัวเราะ)”

“ถ้าจะมีแฟนในอนาคตเป็นผู้หญิงแน่นอน ผมว่าผมเป็น straight ภายนอกอาจจะดูไม่ใช่ แต่ชอบผู้หญิงครับ (หัวเราะ)”

สำหรับมุมมองความสำเร็จในการเป็นศิลปินของมาร์ช เขามองว่าความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพศ แต่เพศอาจมีความเกี่ยวข้องกับความชื่นชอบของเหล่าแฟนคลับ

“ผมรู้สึกว่าสิ่งที่มันแตกต่างในมุมมองของผม ในด้านของดนตรี ใครที่เป็น artist ผมมองข้ามเราดูกันที่ผลงาน แต่แฟนคลับคนที่จะมาดูผลงานเรา เสพผลงานเรา มันเกี่ยวกับเพศแน่นอน เพราะว่าถ้าศิลปินผู้หญิง ถ้าเขาแต่งตัวให้ดูโดดเด่นหน่อยก็อาจจะมีแฟนคลับผู้ชายเยอะ แต่ผู้หญิงก็อาจจะเกลียดด้วย บางทีอาจจะมีผู้หญิงและผู้ชายด้วยที่ไม่ชอบ มองว่าถ้าเป็นคนทำงานด้วยกันจะไม่คิดเรื่องเพศ แต่ถ้าเป็นสื่อนอก คนนอก หรือว่าพวกแฟนคลับ อาจจะมีเพศเข้ามาเกี่ยวข้อง”

การได้มีชื่อเสียงในระดับโลกเป็นสิ่งที่ศิลปินและเหล่าแฟนคลับหลายคนใฝ่ฝัน แต่ในประเทศไทยหลายคนมองว่าอาจเป็นเรื่องยากที่จะก้าวไกลไปสู่ระดับโลก แต่ มาร์ช มองต่างออกไป

“การที่ศิลปินไทยจะมีโอกาสไปมั้ย ผมว่ามีเพราะว่าเรากำลัง go inter ละ รู้สึกว่าค่ายหลายค่ายพยายามปั้นศิลปินไทยให้ไปถึงเมืองนอกได้ เช่น เกาหลี Black Pink ไป Coachella ละ แต่ก่อนเขาก็ยังอยู่แค่เกาหลีดังในอเมริกาบ้าง แต่ตอนนี้เขาได้ไป Coachella ไทยก็เหมือนกัน ผมรู้สึกว่าหลังๆคนไทยเริ่มทำเพลงอังกฤษเยอะขึ้น อาจจะมีเนื้อเพลงไทยน้อยลง sound , design มันเริ่มอินเตอร์มากขึ้น ผมว่ายังไงก็มีโอกาสที่ศิลปินไทยมีโอกาสไปต่อแน่นอน”

แน่นอนว่าในวงการบันเทิงการผลิตสื่อหรือการทำเพลงนั้น หากออกมามีรูปแบบคล้ายคลึงกัน มักจะถูกมองว่าเป็นการคัดลอกผลงาน แต่เขามองว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นการเริ่มต้นที่ดี

ส่วนตัวผม ถ้ามองโลกในแง่ดีก็รู้สึกว่าดี ถ้าเราออกแบบมาได้เหมือนต้นฉบับแสดงว่าคุณภาพ และ quality ของเราคล้ายๆกับเพลงที่เราเลือก แต่ในมุมมองผมมองว่ามันไม่ผิด เพราะว่าเวลาเราจะทำงานอะไรมันต้องมี reference ถ้าเราจะทำเพลงแนวนี้ เราก็ต้องไปหา reference มาก่อน ว่าแนวนี้เป็นยังไง ส่วนตัวผมมองว่ามันไม่ได้มีปัญหาเลย เราอิงมาไม่ได้ลอกหมด แต่ถ้าลอกทั้ง melody อันนี้ผิดแน่นอน แต่ถ้าเราเอา vibes ให้เหมือนกัน ผมว่ามันได้แน่นอน แล้วผมก็ไม่คิดอะไรด้วยถ้าเขาบอกว่าก็อปมา ผมก็จะ “ขอบคุณครับ” ถ้า vibes มันได้ผมก็ภูมิใจในผลงานของผม

เมื่อถามถึงมุมมองการประสบความสำเร็จในอนาคต สิ่งแรกที่เขาอยากทำยังคงเกี่ยวข้องกับดนตรี ซึ่งเป็นความฝันแรกของเขา

“อย่างแรกที่ผมจะทำ คือ สร้างสตูดิโอในฝันของผม ทุกอย่างที่ผมจะสิ่งอยู่ในนั้นได้ 24 ชั่วโมง การใช้ชีวิตผมว่าผมปกติอยู่แล้ว เป็นคนไม่ค่อยใช้ตัง อยู่บ้านอย่างเดียว ก็ชิวๆเลยครับ อาจจะซื้อรถนิดนึงเอามาขับเล่นหน่อยก็แค่นั้นแหละครับ หลักๆเลยคือสตูดิโอ ต้องเกี่ยวกับงานสตูดิโอ ลำโพงที่อยากได้ คีย์บอร์ดที่อยากได้ มีเยอะมากเลยครับ มันเหมือนเวลายิ่งมีจะเหมือนเวลาผู้หญิงซื้อเสื้อผ้าแบบ เอ้ยเราอยากได้ ใช้ไม่ใช้ไม่รู้ เราซื้อมาก่อน หรือ ผู้ชายที่เห็นรถก็อยากได้ ใช้ไม่ใช้ก็อีกอย่าง ของผมคือพวกแบบ crazy ด้านนี้เลย เวลาเห็นลำโพงผมก็จะแบบบ้ามาก ลำโพง คีย์บอร์ด กีต้าร์ อยากไปจับอยากซื้ออยากใช้ รู้สึกอย่างนั้นนะ ถ้าคนที่ทำงานด้านนี้แบบผมเนี่ย”

จากการที่ได้สนทนากับโปรดิวเซอร์และนักดนตรีหนุ่มที่มีแรงบันดาลใจในการสานต่อความฝันของตน นำไปสู่การทำงานที่ตนรัก มุมมองชีวิตที่เปิดกว้างของเขา ทำให้เราได้เห็นว่าบางครั้งความสำเร็จที่แท้จริงอาจเกิดได้จากความชอบส่วนตัว ขอเพียงตั้งใจทำอย่างสม่ำเสมอ จากความขยัน ความมุ่งมั่น ไม่ย่อท้อ รวมถึงทัศนคติการมองโลกในแง่ดี เชื่อว่าจะสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆคนมีกำลังใจที่จะไม่หยุดพัฒนาและเชื่อว่าความสำเร็จนั้นมาจากความชอบได้เช่นกัน

 

สามารถติดตามผลงานของมาร์ช หรือ Meena13 ได้ใน

YouTube channel : Blue Crew

Instagram : meenakom

Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/watch/bluescproduction/

 

รายละเอียดผลงานที่ผ่านมา

– LOFI/RnB –

  1. Meena 13 – Drinking Alone
  2. Meena 13 – ฝันไม่เลือก (Just a Dream)
  3. Meena 13 – ตื้อ (Reply)
  4. Meena 13 – Better Off Alone
  5. Meena 13 – S.U.N
  6. Meena 13 – In My Dreams
  7. Meena 13 – ธันวาหน้าเหงา (Lonely December)

 

– HipHop/Trap –

  1. Meena 13 – GSQUAD
  2. Meena 13 – Broke
  3. Meena 13 – 100 Bottles
  4. Meena 13 – Quarantine
  5. MN. – 58

 

– เพลง cover remix –

  1. Meena 13 – แฟนฉัน
  2. Meena 13 – Miss Me? (คิดถึงฉันไหมเวลาที่เธอ)
  3. Meena 13 – เธอคือความฝัน

 

ผลงานที่โปรดิวซ์ มิกซ์ มาสเตอร์

  1. Nanan – Bedflix
  2. ProudSiraya – Ain’t My King
  3. BADB!TCHBKK ft. KHUN OC – Flex
  4. BADB!TCHBKK – SADB!TCH EP
  1. BADB!TCHBKK – 5 Kilos
  2. KHUN OC – NEXT STEP
  3. KG Smith ft. KHUN OC – Work

ผู้เขียน: ปิยาพัชร รัตนสุวรรณ

You may also like...