Manolo Blahnik

ในบรรดาเครื่องแต่งกายทั้งมวล รองเท้าดูจะเป็นส่วนประกอบชิ้นสุดท้ายที่คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญหรือเจาะจงพินิจคิดมอง ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่าย ที่ใครสักคนหนึ่งจะลุกขึ้นมาสร้างมูลค่าและศิลปะให้กับเครื่องแต่งกายชิ้นล่างสุดอย่างรองเท้า ให้ยกระดับขึ้นมาสู่ความเป็นศิลปะแห่งแฟชั่นเทียบเท่าเสื้อ กางเกง หรือกระโปรง
 ด้วยเวลากว่า 30 ปีในการมุ่งมั่นสร้างสรรค์ศิลปะแห่งฝ่าเท้า ถึงวันนี้ชื่อของ มาโนโล บลาห์นิก (Manolo Blahnik) ได้กลายเป็นแบรนด์รองเท้าสำหรับสุภาพสตรีที่โด่งดังไม่เป็นสองรองใคร และแน่นอน ชื่อนี้กลายเป็นแบรนด์ของรองเท้าที่สุภาพสตรีค่อนโลกพิสมัยอยากมีไว้ในครอบครอง ด้วยรูปลักษณ์ที่งดงามราวมีชีวิตขึ้นมาจากเทพนิยาย รองเท้าของมาโนโลเพริศแพร้วไปด้วยวัสดุที่เลิศหรูเกินกว่ารองเท้าทั่วไปจะพึงมี ทั้งพลอยเทียม ขนนก เม็ดเลื่อม กระดุม โบ ลูกปัด ห่วง แหวน โซ่ ริบบิ้น ลายปักไหม เศษปะการัง ลูกไม้ ขนสัตว์ หนังจระเข้ ขนนกกระจอกเทศ ฯลฯ ทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้ผ่านการเลือกสรรและออกแบบจากมันสมองและสองมือของชายที่ชื่อมาโนโล ผู้ปรารถนาให้รองเท้าเป็นมากกว่ารองเท้า

มาโนโลเป็นชาวสเปนโดยกำเนิด จบการศึกษาศิลปะและวรรณคดีจาก University of Geneva ก่อนจะตัดสินใจเข้าสู่วงการออกแบบแฟชั่นที่นิวยอร์ก ที่นั่นเขาได้พบกับไดอานา วรีแลนด์ บรรณาธิการชื่อดังของนิตยสารโวค ผู้ซึ่งเมื่อได้เห็นแบบสเก็ตช์เสื้อผ้าของเขา ก็แนะนำให้เขาออกแบบเครื่องประดับน่ารักๆ และโดยไม่คาดคิด นั่นคือต้นกำเนิดแบรนด์รองเท้า “มาโนโล” ที่กลายเป็นคำเรียกรองเท้าส้นสูงยอดนิยมในเวลาต่อมา

มาโนโลเป็นคนกระตือรือร้น นอกจากท่วงท่ากรีดกรายดูหรูหรามีสง่าราศีและมารยาทดีแล้ว เขายังเป็นคนสนุกสนานที่พร้อมจะมอบเสียงหัวเราะให้ผู้คนรอบข้างอยู่เสมอ เรามักพบเขาได้ในรูปลักษณ์ของชายหน้าเปื้อนยิ้ม ผมสีเงินหวีเรียบแปล้ไปด้านหลัง แต่งตัวดูดีไร้ที่ติ แต่แม้ท่าทางภายนอกจะดูเป็นหนุ่มเจ้าสังคมขี้เล่น แต่เวลาทำงานมาโนโลเป็นคนที่พิถีพิถันยิ่งนัก เห็นได้จากการที่เขาเป็นผู้ดูแลการออกแบบรองเท้าในแบรนด์ของตัวเองทุกคู่อย่างไม่เคยขาดตกบกพร่อง ด้วยปณิธานของเขาที่ว่า
 

“ถ้าผมช่วยให้ผู้หญิงที่สวมรองเท้านี้หลุดออกจากโลกแห่งความเป็นจริง หรือช่วยให้ใครมีความสุขเล็กๆ น้อยๆ ได้แม้เพียงไม่กี่นาที รองเท้าคู่นี้อาจเป็นมากกว่ารองเท้า”
 

เพราะรองเท้าสำหรับมาโนโลไม่ใช่เพียงรองเท้า หากแต่คือศิลปะการออกแบบ ความหรูหรามีราคา และเหนืออื่นใด คือจิตวิญญาณของเขา ที่ปรารถนาจะมอบรอยยิ้มให้แก่สุภาพสตรีทุกๆ คน

แต่คงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายไม่น้อย ที่เราอาจไม่ได้เห็นแบรนด์มาโนโลอยู่คู่วงการแฟชั่นไปได้ตราบนานเท่านาน เมื่อเจ้าตัวออกมาประกาศย้ำชัดถึงความต้องการของเขา ที่ไม่ต้องการให้แบรนด์ของเขาตกอยู่ภายใต้การทำงานของศิลปินผู้สืบทอดคนอื่นๆ เหมือนเช่นคริสเตียน ดิออร์, โคโค ชาแนล, โรเชร์ วิวิเยร์ หรือซัลวาโตเร แฟร์รากาโม ที่ต่างมีผู้เข้ามารับช่วงต่อหลังจากตนเองได้จากโลกนี้ไปแล้ว มาโนโลมองว่านั่นเป็นสินค้าที่ไม่ใช่ผลงานของผู้คิดค้นต้นแบบ บอกเป็นนัยว่าแบรนด์มาโนโลจะต้องตายไปพร้อมกับเขา เหลือทิ้งไว้เพียงตำนานให้เล่าขานเท่านั้น

——————————————————————————–

 httP://www.artbangkok.com
ข้อเขียนนี้ เป็นลิขสิทธิ์ของ ArtBangkok.com ห้ามนำไปลอกเลียน ทำซ้ำ หรือ ดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้ละเมิดลิขสิทธิ์จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฏหมาย

You may also like...