Issey Miyake เกิดในปี 1938 เส้นทางสายออกแบบของเขาเริ่มต้นที่การศึกษาด้านกราฟิกดีไซน์ที่ Tama Art University ใน Tokyo หลังจากจบการศึกษาในปี 1964 เขาเดินทางไปปารีสเพื่อเรียนต่อในสถาบันสอนการตัดเย็บเสื้อผ้าชั้นสูงชื่อดังของฝรั่งเศส Ecole de la chambre Syndicale de la Couture Parisienne และเริ่มชีวิตการทำงานออกแบบโดยอยู่เบื้องหลังของแบรนด์ระดับตำนานของฝรั่งเศสอย่าง Guy Laroche, Hubert de Givenchy รวมถึงนักออกแบบอเมริกัน Geoffrey Beene.
และเมื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ได้มากพอเขาเดินทางกลับมาที่โตเกียว และก่อตั้ง the Miyake Design Studio ขึ้นในปี 1970 โดยให้ความสนใจทดลองกับแนวการออกแบบเสื้อผ้าโดยการจับพลีตอย่างมุ่งมั่น ซึ่งการจับพลีตนั้นก็น่าจะมีแรงบันดาลใจมาจากศิลปะการพับกระดาษแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่เรียกว่า โอริงามิ (Origami) และเพียง 3 ปีให้หลัง เสื้อผ้าที่ออกแบบโดยมีการอัดพลีตของเขาก็ก่อให้เกิดปรากฏการณ์ความนิยมอย่างหยุดไม่อยู่บนเวทีแฟชั่นชั้นสูงในปารีส ทำให้ชื่อของ Issey Miyake ถูกจดจำด้วยสไตล์เสื้อผ้าอัดพลีตที่กลายเป็นไอคอนของแบรนด์แฟชั่นญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมระดับโลก และผ้าพลีตก็เป็นเสมือนเครื่องหมายการค้าของแบรนด์ Issey Miyake ไปโดยปริยาย ซึ่งความสำเร็จนี้ไม่ได้มาจากความหรูหราเท่านั้น แต่มาจากความสะดวกในการม้วนใส่กระเป๋า แล้วสามารถหยิบมาใช้ได้อย่างสะดวกสวยงามโดยไม่เสียรูป ตอบสนองการใช้งานได้ทุกโอกาส ออกแบบได้สนุกสนานโดยสามารถนำมาผ้าคอได้ จะคลี่ออกมาใส่เป็นชุดก็ได้ และแต่ละชุดก็สามารถใส่ได้หลากหลายแบบ
ความสำเร็จในการสร้างสไตล์ของ Issey Miyake ไม่จำกัดอยู่เพียงในยุโรป แม้แต่ บลูมมิ่งเดลซึ่งเป็นห้างหรูในมหานครนิวยอร์คยังเปิดพื้นที่พิเศษสำหรับ Miyake โดยถือว่าผลงานของเขานั้นสื่อสารถึงการสัมผัสกันอย่างอ่อนโยนระหว่างวิถีดีไซน์โลกตะวันออกและตะวันตก (East meet West)
Issey Miyake ได้รับการยกย่องจากสถาบันออกแบบทั้งในโลกตะวันออกและตะวันตก ไม่ว่าจะเป็นรางวัลจาก Japan Arts Association หรือแม้แต่รางวัล Kyoto Prize อันทรงเกียรติที่เขาเป็นนักออกแบบแฟชั่นเพียงคนเดียวที่ได้รับ ซึ่งมีมูลค่ารางวัลสูงถึง 50 ล้านเยน
ผลงานออกแบบแฟชั่นโดยเฉพาะสิ่งทออัตพลีตที่เป็นเอกลักษณ์ของ Issey Miyake ถือเป็นศิลปะแฟชั่นชั้นสูงที่ทั่วโลกยอมรับและคนทั่วไปสามารถใช้งานได้จริง แต่ศิลปินนักออกแบบผู้ยิ่งใหญ่อย่างเขากลับคิดถึงความสะดวกสบายของผู้ใช้งานมากกว่าการประกาศชื่อเสียง เขาจึงตัดสินใจไม่พิมพ์ชื่อของเขาลงไปบนผืนผ้า แต่เลือกที่จะขายเป็นพับเหมือนผ้าธรรมดาทั่วไป เพื่อให้ลูกค้าสามารถนำไปตัดเย็บเป็นรูปแบบต่างๆได้ง่ายตามความต้องการใช้สอยโดยไม่ต้องห่วงว่าลวดลายจะเสีย นับว่าเป็นแนวคิดที่ยิ่งใหญ่และละเอียดอ่อนลึกซึ้ง ซึ่งไม่เพียงแต่สื่อสารในงานออกแบบแฟชั่น เสื้อผ้า น้ำหอม แต่ยังขยายไปถึงงานออกแบบเครื่องประดับ นาฬิกา เรื่อยไปถึงแรงบันดาลใจในงานสถาปัตยกรรม อันสะท้อนให้เห็นว่าศิลปะการออกแบบที่มีคุณค่าย่อมต้องมีความความเคารพและเข้าใจในวิถีธรรมชาติของมนุษย์มากกว่าที่จะทำให้ดูสวยงามแต่ไร้ประโยชน์
และสำหรับผู้มีรสนิยมหลงใหลกลิ่นน้ำหอมและบรรจุภัณฑ์อันทรงเสน่ห์ของ Issey Miyake ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า กลิ่นหอมจรุงใจที่ถูกรังสรรค์ขึ้นนี้ คือนิยามใหม่ของสุนทรียศาสตร์แห่งกลิ่นเลยทีเดียว ทำให้ Issey Miyake มีความหมายมากกว่าสไตล์ หากแต่หมายถึงจิตวิญญาณแห่งการสร้างสรรค์
——————————————————————————–
เรียบเรียงโดย : วีร์วิศ
ข้อเขียนนี้ เป็นลิขสิทธิ์ของ ArtBangkok.com ห้ามนำไปลอกเลียน ทำซ้ำ หรือ ดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้ละเมิดลิขสิทธิ์จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฏหมาย