อำลา อาลัย สายัณห์ สัญญา สุดยอดตำนานลูกทุ่งไทย ขวัญใจคนเดิม

สายัณห์ สัญญา

แม้ว่าคุณจะไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้เพลงลูกทุ่ง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า เพลงลูกทุ่งไทยนั้น เป็นส่วนหนึ่งที่ผู้พันหยั่งรากลึกในวัฒนธรรมของคนไทยส่วนใหญ่มาตลอดระยะเวลาอันยาวนาน

ด้วยเนื้อร้องและทำนองที่สะท้อนชีวิตของผู้คนในสังคมส่วนใหญ่ ที่เป็นชนชั้นกลางและชนชั้นแรงงาน ไม่ว่าจะในภาคอุตสาหกรรมหรือภาคการเกษตร ด้วยเรื่องราวที่บอกเล่าถึงภาพชีวิตของผู้คนอย่างซื่อตรงเรียบง่าย สร้างความสุข ความประทับใจ และรอยยิ้มให้คนหมู่มากได้เสมอ และหนึ่งในนักร้องลุกทุ่งร่วมสมัย สายัณห์ สัญญา หรือ พี่เป้า สุดที่รักของแฟนเพลง ด้วยสโกแกนประจำตัว “รักสายัณห์น้อยๆ แต่รักนานๆ” ที่คนไทยกว่า 70% ของประเทศน่าจะรู้จักไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ชอบเพลงของเขาก็ตาม และวันนี้ ก้ได้พิสูจน์แล้วว่า ความรักที่แฟนเพลงมีให้นักร้องในดวงใจของเขานั้น ยาวนานยิ่งกว่าชีวิตของ สายัณห์ สัญญา จริงๆ เพราะถึงวันที่เขาจากไปแล้ว ความรักความอาลัยและความชื่นชอบในบทเพลงของเขาก็ยังคงอยู่ไม่เสื่อมคลาย

เป็นธรรมดาของชีวิตที่จะต้องมีการเกิดและดับ เช่นเดียวกับ ลาภ ยศ สรรเสริญ และสุข ที่ไม่จีรังยั่งยืน เมื่อผ่านเข้ามาแล้ว ก็มีวันเสื่อมสูญจากไป ชีวิตของสายัณห์ สัญญา ที่ครั้งหนึ่ง เคยครองบัลกังก์ราชาลูกทุ่งไทย ด้วยวุฒิการศึกษาเพียงชั้น ป.4 เป็นขวัญใจผู้คนทั่วประเทศ ก็ไม่แตกต่างกัน จากจุดเริ่มต้นที่ต้อยต่ำ สู่จุดสูงสุดในชีวิต เขาเริ่มต้นชีวิตจากการเป็นหนุ่มบ้านนอกที่ยากไร้และมีการศึกษาเพียงขั้นพื้นฐาน ดังที่ปรากฏในบทเพลง แต่ด้วยความสามารถและความตั้งใจจริง ทำให้ชื่อของสายัณห์ สัญญา เป็น ICON หนึ่งของวงการเพลงลูกทุ่งร่วมสมัยมายาวนานกว่าครึ่งศตวรรษ ก่อนที่จะผกผันไปสู่ความยากไร้และอับจนในบั้นปลายทั้งปัญหาโรคภัยไข้เจ็บและปัญหาเศรษฐกิจ ในวันที่สังขารริบหรี่ สายัณห์ พยายามฮึดสู้ที่จะร้องเพลงเพื่่อหารายได้ช่วยเหลือครอบครัวในวาระสุดท้าย ท่ามกลางแฟนเพลงที่ยังคงรักและห่วงใย แต่สุดท้ายเขาก็เหลือเพียงความตั้งใจฝากไว้กับร่างไร้วิญญาณ และความโศกสลดของคนเบื้องหลัง

อย่างไรก็ตาม แม้สายัณห์จะจบชีวิตลงอย่างคนยากไร้ แต่เขาก็ยังคงยิ่งใหญ่ในหัวใจนักฟังเพลงเสมอ และ Hi-class ก็ขอร่วมไว้อาลัย ให้กับสุดยอดนักร้องลูกทุ่งไทยระดับตำนานไว้ ณ ที่นี้

ลาก่อน สายัณห์ สัญญา ขวัญใจคนเดิม

ประวัติ สายัณห์ สัญญา สุดยอดลูกทุ่งไทย

สายัณห์ สัญญา นักร้องลูกทุ่งชื่อดังแห่งลูกทุ่งชาวไทย ที่มีน้ำเสียงเป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งมีผลงานที่เป็นเพลงอมตะ ที่เป็นที่ติดหูคนไทยมายาวนาน ด้วยผลงานเพลงต่างๆ เช่น ไก่จ๋า, แด่คนชื่อเจี๊ยบ และด้วยเสียงร้องลักษณะแหบๆ แต่ไพเราะ จึงได้ฉายาว่า “แหบมหาเสน่ห์” จนทำให้คนไทยหลายคนติดตามผลงานเป็นจำนวนมาก แต่เส้นทางชีวิตของสายัณห์ สัญญา ต้องสิ้นสุดลงด้วยโรคมะเร็ง และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2556 ปิดเส้นทางวงการลูกทุ่งที่ยาวนาน รวมอายุ 60 ปี

สายัณห์ สัญญา มีชื่อจริงเดิมคือ “สายัณห์ ดีเสมอ“ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น ” พรสายัณห์ มีโชคดีเสมอ ” มีชื่อเล่นว่า “เป้า” เกิดเมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2496 ที่ ตำบลป่าสะแก อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นบุตรนายอ่อง และนางบุญช่วย ดีเสมอ ซึ่งประกอบอาชีพเป็นชาวนา
สายัณห์ ได้เข้าศึกษาที่โรงเรียนวัดป่าสะแก ซึ่งเป็นโรงเรียนใกล้บ้าน หลังจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จึงได้ออกมาช่วยทางบ้านทำนา แต่ไม่นานนักคุณพ่อของสายัณห์ ก็เสียชีวิตลง ทำให้สายัณห์ สัญญา ต้องต่อสู้ไปกับแม่เพียงลำพังเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่สายัณห์นิยมชมชอบและรักการร้องเพลงลูกทุ่งมาตั้งแต่เด็ก เขาจึงได้ตระเวนประกวดร้องเพลงมามากมายนับครั้งไม่ถ้วน ได้รับรางวัลชนะเลิศมาก็หลายครั้ง โดยมีญาติผู้ใหญ่ที่ชื่อ น้าสว่าง เป็นผู้พาไปสมัครประกวดร้องเพลงตามสถานที่ต่าง ๆ

จนกระทั่งวันหนึ่งวงดนตรี ผ่องศรี วรนุช มาเปิดทำการแสดงที่วัดราษฎร์บำรุง ซึ่งบนเวทีจัดให้มีการประกวดร้องเพลงด้วย สายัณห์จึงมาสมัครเพื่อเข้าร่วมประกวดร้องเพลงด้วย แต่ปรากฏว่าเขาปิดรับสมัครไปก่อนแล้ว ในช่วงที่รอการตัดสินการประกวดร้องเพลง สายัณห์จึงขอขึ้นเวทีไปร้องโชว์แทน ซึ่งเพลงที่เขาร้องโชว์คือ เพลงแฟนจ๋า ของ สุรพล สมบัติเจริญ ปรากฏว่า เมื่อร้องเพลงจบได้รับเสียงปรบมืออย่างกึกก้องจากผู้ชม ขณะที่ ผ่องศรี วรนุช ก็รู้สึกประทับใจ จึงรับสายัณห์เข้าวงดนตรีเมื่อปี พ.ศ. 2509

หลังจากนั้นสายัณห์ตัดสินใจจากบ้านเกิดมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯ พร้อมกับวงดนตรีผ่องศรี หวังเสี่ยงโชคชะตาชีวิต โดยเขาต้องทำทุกอย่างที่ทางวงจะให้ทำ ไม่ว่าจะเป็นหางเครื่อง แบกกลอง เก็บของจิปาถะ และด้วยความมานะอดทน ความซื่อสัตย์ ขยันขันแข็ง ทำให้ชื่อของสายัณห์เริ่มปรากฏออกมาให้แฟน ๆ ได้พบกันเป็นประจำ โดยสมัยนั้นเขาใช้ชื่อในการเป็นนักร้องว่า “กัมชัย ราษฎร์บำรุง” และได้อัดแผ่นเสียงเป็นเพลงแรกในชีวิต 1 เพลง คือ เพลงหักใจไม่ลง แต่สายัณห์อยู่กับวงดนตรีผ่องศรีได้เพียง 3 ปี วงดนตรีก็ยุบตัวไป

จากนั้นชีวิตของสายัณห์ก็ระหกระเหิน ต้องย้ายวงไปเรื่อย ๆ เพื่อแสวงหาจังหวะชีวิตที่ลงตัว ทั้งวงดนตรีรวมดาวกระจายของครูสำเนียง ม่วงทอง, วงดนตรีบรรจบ เจริญพร, วงดนตรีก้าน แก้วสุพรรณ จนมาถึงวงดนตรีชินกร ไกรลาศ และที่นี่เองที่ทำให้สายัณห์ได้เจอกับผู้อุปการะที่แท้จริงคือ คุณพ่อเล็ก และคุณแม่น้อยศรี อิงคะนันท์ ซึ่งเป็นเจ้าของปั๊มน้ำมันพรรุ่งโรจน์ บุคคโล และเจ้าของวงดนตรีรวมพร ซึ่งมีศักดิ์ สนธยา เป็นผู้จัดการวง

ในปี พ.ศ. 2515 คุณพ่อเล็กและคุณแม่น้อยศรี อิงคะนันท์ ออกทุนให้สายัณห์อัดแผ่นเสียงเริ่มต้นจาก เพลงรักเธอเท่าฟ้า และเพลงพลัดคู่ โดยที่เขาหวังว่าเพลงดังจะได้มีงานทำ มีเงินใช้เหมือนคนอื่น แต่ความหวังกลับมืดมนเมื่อแผ่นเสียงถูกเก็บเอาไว้ สุดท้ายก็ไปไม่รอดต้องกลายเป็นเด็กล้างรถอยู่ในปั๊มน้ำมันพรรุ่งโรจน์ บุคคโล

แต่แล้ววันหนึ่งขณะที่สายัณห์ช่วยงานล้างรถอยู่ที่ปั๊มน้ำมัน ชลธี ธารทอง ครูเพลงชื่อดังที่ตอนนั้นยังเป็นนักร้อง และนักแต่งเพลงที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียง ได้ตัดสินใจจะกลับไปใช้ชีวิตชาวไร่ที่บ้านนอก เพราะไม่ประสบความสำเร็จในวงการเพลงได้แวะมาเข้าห้องน้ำที่ปั๊มแห่งนี้ และได้ยินสายัณห์ร้องเพลงของ ศรคีรี ศรีประจวบ จนรู้สึกถูกใจ ซึ่งหลังจากได้คุยกัน สายัณห์บอกว่าเขาอยากเป็นนักร้อง ชลธีจึงมอบเพลง “ลูกสาวผู้การ” และ “แหม่มปลาร้า” ให้สายัณห์ฟรี ๆ โดยเดิมที 2 เพลงนี้ชลธีจะแต่งให้ศรคีรีร้อง แต่ศรคีรีโชคร้ายประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิตไปก่อน พร้อมกันนี้สายัณห์ยังได้รับความอุปการะจากคุณพ่อเล็ก และคุณแม่น้อยศรี เช่นเดิม จนสามารถก่อกำเนิดวงดนตรีน้องใหม่ขึ้นมา

โดยในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2516 คือวันเปิดวงครั้งแรก แสดงที่บึงพลาญชัย อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด ผู้คนแห่กันมาชมอย่างเนืองแน่น โดยปีแรกเริ่มของการก่อตั้ง วงดนตรีต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมายหลากหลายเหตุผล แต่ก็พอจะมีเพลงดังให้คนได้จดจำไม่น้อย เริ่มจากลูกสาวผู้การ, แหม่มปลาร้า รวมทั้งเพลงที่คุณพ่อเล็กและคุณแม่น้อยศรี อิงคะนันท์ เคยอัดให้ไว้ก่อนแต่ไม่ยอมตัดแผ่นเชียร์ ก็เริ่มต้นเอาออกมาเชียร์กันทีหลัง และจากนั้นก็ดังต่อเนื่องกันมามีเพลง รักเธอเท่าฟ้า และ พลัดคู่ รวมถึงเพลงอื่น ๆ อีก เช่น สัญญา 5 ปี, ลารักจากสวนแตง, จำปาลืมต้น, นางกวักมหาเสน่ห์ และนางฟ้ายังอาย

ในที่สุดเมื่อย่างเข้าสู่ปีที่ 3 วงดนตรีของ สายัณห์ สัญญา ก็เฟื่องฟูถึงขีดสุด โดยได้รับความช่วยเหลือจาก สมชาย ทองขาว นักวางแผนจัดการ นักเขียนหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ที่ได้ชื่อว่าทรงอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งในวงการเพลงลูกทุ่ง ได้ก้าวเข้ามาดูแลบุ๊กการแสดงให้กับวงของ สายัณห์ สัญญา ประกอบกับความพยายามสร้างผลงานให้ดีที่สุดของเจ้าตัว ส่งผลให้ สายัณห์ สัญญา ดังเปรี้ยงกลายเป็นขวัญใจแฟนเพลงตัวจริงจนมาถึงทุกวันนี้

อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าสายัณห์จะประสบความสำเร็จ สามารถไปสู่จุดสูงสุดในอาชีพนักร้องลูกทุ่งได้ แต่ในเรื่องชีวิตครอบครัวกลับไม่เป็นเช่นนั้น ด้วยความที่สายัณห์เป็นหนุ่มทรงเสน่ห์ขวัญใจสาว ๆ มากมาย จึงทำให้เขาและภรรยามีอันต้องเลิกรากันไป อย่างไรก็ตามทั้งสองก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่ของความเป็นพ่อและเป็นแม่ของลูกทั้ง 4 คน ได้แก่ เบสท์ สวามินี, เกรซ ศิรประภา, บิ๊ก เวสารัช และเฟิร์ส ภัทรกัญญา อย่างสมบูรณ์แบบ แม้จะไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมชายคาเดียวกันก็ตาม โดย สายัณห์ สัญญา แต่งงานกับ ซ้อปิ๋ม วรรณพร สัมฤทธิ์ สาวงามระดับเทพีจากเมืองชลบุรี เมื่อปี พ.ศ. 2530 ในช่วงที่ สายัณห์ สัญญา ยังทำวงดนตรีอยู่ ก่อนจะแยกทางกันหลังอยู่กินกันมาเกือบ 20 ปี และในปี พ.ศ. 2550 สายัณห์ สัญญา ก็ได้เข้าพิธีหมั้นกับแฟนสาวคราวลูกคือ น้องมล พรพิมล จะเรียมพันธ์ วัย 26 ปีเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 และมีโครงการวิวาห์ในเดือนกันยายนปีเดียวกัน ก่อนจะมีอันต้องเลิกรากันไปหลังอยู่กินกันได้ไม่น่าน

ในช่วงบั้นปลายของชีวิต ที่ สายัณห์ สัญญา ต้องเข้ารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล เขาก็มีภรรยาที่แยกทางกันไปแล้วอย่าง ซ้อปิ๋ม วรรณพร สัมฤทธิ์ กลับมาดูแลอย่างใกล้ชิดพร้อมด้วยลูก ๆ ทั้ง 4 คน โดยภรรยา สายัณห์ สัญญา เล่าว่า ก่อนที่ สายัณห์ สัญญา จะจากไป เธอได้บอกเขาว่าไม่ต้องเป็นห่วง จะดูแลลูก  ๆ ให้ดีที่สุด ก่อนจะบอกให้พี่เป้านึกถึงพระรัตนตรัยและบุญกุศลที่เคยทำ แล้วหลับตาทำสมาธิร่วมกันโดยที่มือกุมกันไว้ จนกระทั่งพยาบาลแจ้งว่าพี่เป้า สายัณห์ สัญญา ได้จากไปแล้ว ซึ่งถือเป็นการปิดตำนานชีวิตนักร้องลูกทุ่งขวัญใจคนเดิมของเมืองไทย สายัณห์ สัญญา ในที่สุด

ช่วงสุดท้ายของชีวิตสายัณห์ สัญญา มีเพื่อนนักร้องชื่อดังในวงการหลายคนได้เข้ามาแสดงความเห็นใจในปัญหาสุขภาพและปัญหาเศรษฐกิจ โดยได้ทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อหาเงินทุนมาช่วยสนับสนุน สายัณห์ สัญญา หนึ่งในกิจกรรมที่กล่าวขวัญ คือการที่ เสก โลโซ ได้นำเพลง “ไก่จ๋า” ซึ่งเป็นเพลงสุดฮิตของสายัณห์ มาร้องใหม่ ในรูปแบบ Featuring คู่กับสายัณห์ แต่โครงการนี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ สายัณห์ก็สิ้นลมเสียก่อน เสก โลโซ จึงใช้วิธีมิกซ์เสียงด้วยอิเลคโทรนิคส์ ทำให้เกิดเพลง ไก่จ๋า เวอร์ชั่นพิเศษออกมา

สำหรับเพลง “ไก่จ๋า” นั้น แต่งขึ้นโดย ปิยะ ตระกูลราษฎร์ ซึ่งเคยรักกับ ดารานักร้องซูเปอร์สตาร์แห่งยุค ปริศนา วงศ์สิริ ซึ่งชื่อเล่นว่า ไก่ เมื่อ ปิยะกับปริศนาเลิกรากัน ปิยะก็แต่งเพลงนี้ ให้สายัณห์ สัญญา ซึ่งเป็นเพื่อนรักกันขับร้อง และโด่งดังมากๆ ในยุคนั้น …จนกลายเป็นเพลงอมตะโด่งดังมาจนยุคนี้

ประวัติ

ชื่อเกิด : สายัณห์ ดีเสมอ
ชื่อเล่น : เป้า
ฉายา : แหบมหาเสน่ห์
 วันเกิด : 31 มกราคม พ.ศ. 2496 (60 ปี)
แหล่งกำเนิด : อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี
แนวเพลง : ลูกทุ่ง
อาชีพ : นักร้อง

ผลงานเพลง

– เกลียดห้องเบอร์ห้า
– กินอะไรถึงสวย
– กลิ่นแก้มนาง
– ขับรถหารัก
– ของขวัญให้แฟน
– ขวัญใจคนเดิม
– เขมรไล่ควาย
– ของขวัญให้แฟน
– ความรักเหมือนยาขม
– คนซื่อที่ไร้ความหมาย
– ความรักสีดำ
– คิดถึงสายัณห์
– คนไม่มีหัวใจ
– จากบ้านนาด้วยรัก
– ฉันรักเมืองไทย
– ฟ้าบันดาล
– ดอกฟ้า เมืองไทย
– น้ำตาอีสาน
– นางกวักมหาเสน่ห์
– นางฟ้ายังอาย
– ในอ้อมกอด
– เปิดผนึกบันทึกช้ำ
– เปิดเทอมรอรัก
– มนต์เสียงเพลง
– ไม่มีใครรักจริง
– มีแฟนหรือเปล่า
– มันจะเหลือเรอะ
– ยืนใจลอยคอยแฟน
– รักคนชื่อเพ็ญ
– รักสาวระยอง
– รักเธอเท่าฟ้า
– รักจนขาดใจ
– ลาบางกอก
– ลืมไม่ลง
– วอนหาคู่
– วันสุดท้าย
– ลานเทสะเทือน
– สายัณห์ขายใจ
– สายัณห์คอยแฟน
– สายัณห์เพ้อ
– สุขสันต์วันเศร้า
– เสียงขลุ่ยเรียกนาง
– สายัณห์รักจริง
– สิ้นทางรัก
– สายัณห์แสดงสด
– สายัณห์คอยคู่
– สายัณห์ ปีทอง 28
– หนุ่มพเนจร
– หนุ่มรำโทน
– หยาดเพชร
– หนุ่มข้าวจ้าวสาวข้าวเหนียว
– เหมือนข้าวลืมเคียว
– ห้องนอนคนจน
– อ้อนจันทร์
– อยากกินคนใจดำ
– ไอ้หนุ่มรถไถ
– อมตะเสียงทอง
– อกหักที่หมอชิต
– สายัณห์วอนแฟน (ก.พ. 2550)

ผลงานการแสดง

– ลูกทุ่งพเนจร
– นักร้องนักเลง
– นักร้องปืนโหด
– ลูกทุ่งเสียงทอง
– แพแตก
– เสน่ห์นักร้อง
– ความรักเหมือนยาขม
– ลูกทุ่งเพลงสวรรค์

อ้างอิง : http://musicstation.kapook.com/view67547.html

You may also like...