Sabotage เงินที่หายไปกับหัวใจสกปรก

วางมือจากวงการการเมืองไปไม่นาน อดีตผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียอย่าง อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ วัย66ปีก็หวนเข้าสู้วงการภาพยนตร์เต็มตัวอีกครั้ง ส่งหนังบู๊ลงโรงอย่างต่อเนื่อง ถัดจาก The Expendables 2 และ Escape plan ที่ป๋าอาร์โนลด์แสดงกับเฮียซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ก็มาถึง

Sabotage หนังแอ็คชั่นอาชญากรรมที่ได้ว่ากันว่าแรงบันดาลใจเรื่อง And Then There Were None ของนักเขียนนิยายชื่อดัง อกาธา คริสตี้ ตัวหนังเล่าถึง จอห์น วอร์ตัน (อาร์โนลด์) หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษของหน่วยปราบปรามยาเสพติดสุดระหํ่า8นายกับอีก1นาง พวกเขาบุกจับกุมแก๊งยาเสพติดรายใหญ่ได้มากมาย ทว่าในคดีล่าสุด ทางการพบว่าเงินของกลาง10ล้านเหรียญหายไป จอห์น และลูกน้องถูกพักงานพร้อมตั้งกรรมการสอบสวน ทีมแตก บางคนลาออก แต่ไม่มีใครยอมรับว่าเอาเงินไป ต่อมา ทางการตัดสินใจคืนยศให้ จอห์น และยกเลิกการสืบสวนเพราะไม่มีหลักฐานเอาผิดใครได้ เขารวบรวมลูกทีมกลับมาทำงานอีกครั้ง แต่หลังจากวันปาร์ตี้รวมทีม ลูกน้องของเขาก็เริ่มถูกฆ่าตายไปทีละคน นักสืบแคโลไรน์ (โอลิเวีย วิลเลียมส์) รับผิดชอบคดีนี้ จอห์นกับเธอต้องช่วยกันหาให้ได้ว่าใครกันที่เป็นคนสังหารลูกน้องของเขา

บทของหนังมีความกํ้ากึ่งระหว่างแอ็คชั่นกับสืบสวน แถมมีดราม่าเบาๆในตอนท้าย แต่ทำได้ไม่ดีสักทาง ดำเนินเรื่องไม่ลื่นไหล สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือผู้กำกับพยายามขายความดิบเถื่อน เราจึงได้เห็นการฆ่ากันเลือดสาด ศพเละเลือนกระจายมากมายไม่แพ้หนังสยองขวัญ แถมยังมีฉากโป๊เปลือย รวมถึงการพ่นคำหยาบใส่กันของตัวละครตลอดเรื่อง ซึ่งกลายเป็นว่ามันดูตั้งใจจนล้นเกินไป ทำให้คนดูเอียน

ในทางกลับกัน ช่วงกลางจนถึงปลายหนังพยายามเน้นไปในทางสืบสวน แต่ก็ทำออกมาได้ไม่ดีนัก ด้วยตัวบทที่มีช่องโหว่มากมาย แรงจูงใจของฆาตกรที่ไม่ค่อยมีนํ้าหนัก หนังจึงเดาทางได้ง่าย และตอนเฉลยก็ไม่ได้สร้างความแปลกใจให้ผู้ชม ประเด็นตีแผ่วงการตำรวจทำได้แค่ผิวเผิน ยิ่งตอนจบออกทะเลกลายเป็นหนังล้างแค้นอย่างกับหนังคนละม้วน

อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ แก่ไปแล้วจริงๆกับบทตำรวจขาบู๊ แม้ว่าเรื่องนี้เขาจะถูกวางให้เป็นหัวหน้าคุมเด็กๆ แต่ก็มีซีนแอ็คชั่นเป็นระยะ ซึ่งแน่นอนว่าลุงแกคงบอกตัวเองว่าฉันยังไหว ทว่า คนดูที่เห็นสังขารแกแบบชัดๆเต็มจอ ไม่ว่าจะ ผมหงอกเต็มหัว ตีนกาเต็มหน้าผาก ผิวเหี่ยวย่น คงอยากให้แกกลับไปพักผ่อน อยู่บ้านเลี้ยงหลานมากกว่า แซม เวิร์ธธิงตั้น กับบทลูกน้องคนสำคัญในทีมของ จอห์น นํ้าหนักตัวที่เพิ่ม รูปร่างที่ใหญ่ขึ้น กับเครากวนๆ ทำให้เราแทบจะจำเขาไม่ได้ว่าคือคนเดียวกับที่เคยแสดง Avatar , Man on a Ledge , Clash of the Titans แถมบทของเขาในเรื่องยังดูธรรมดาไป ไม่มีอะไรน่าจดจำ

ฝ่ายหญิงดูดีกว่า โอลิเวีย วิลเลียมส์ ดาราสาวใหญ่ในบทตำรวจนักสืบสาวมาดเข้ม ถึงจะอายุมากแล้ว แต่การปลดกระดุมเผยช่วงคอถึงหน้าอกก็ยังดูเย้ายวนใจไม่น้อย ที่คาดไม่ถึงคือผู้กำกับจัดให้เธอมีฉากอีโรติกกับป๋าอาร์โนลด์ ด้าน มิรีลล์ เอโนส ดาราสาวชื่อไม่คุ้นที่เล่นเป็น ลิซซี่ สาวคนเดียวของทีมที่แสนจะ บ้าบิ่น ก๋ากั่น แสบที่สุดในกลุ่ม ตัวละครนี้โดดเด่นเป็นรองแค่เพียง จอห์น ซึ่ง มิรีลล์ แสดงออกมาได้น่าสนใจ เข้าถึงอารมณ์จนคนดูหลายคนตั้งคำถามว่าเธอคือใคร มาจากไหน

กระนั้น ความที่เนื้อหาของหนังคลุมเครือไม่ชัดเจน อาทิ เงิน10ล้านที่หายไปซึ่งแต่เดิมเหมือนจะทำตามคำสั่งรัฐบาลพลิกมาเป็นเรื่องหักหลังกันเอง จำนวนคนในทีมที่บอกว่ามี10คน(ชื่อเดิมของหนังคือ Ten) นับไปนับมายังไงก็ไม่ครบ วิธีการของคนร้ายที่ใช้ก่อคดีฆาตกรรมก็ถูกลักไก่ปล่อยผ่านไปกับเหตุชุลมุนในช่วงท้ายโดยไม่มีคำอธิบาย และแรงจูงใจของฆาตกรที่ไม่มีความแค้นส่วนตัวกับใครแต่กลับลงมือด้วยวิธีสกปรก เหี้ยมโหด เหล่านี้ทำให้หนังสูญความน่าเชื่อถือไปจนหมดสิ้น มันแย่จนผมอดสงสัยไม่ได้ว่าส่วนไหนกันที่อ้างอิงมาจากนิยายชั้นดีของ อกาธา คริสตี้ นักเขียนเรื่องสืบสวนหญิงเบอร์หนึ่งของโลก

BUGABOO NEWS / บทวิจารณ์โดย นกไซเบอร์

สิทธิโชติ สุภาวรรณ์ (นกไซเบอร์)

จบด้านขีดๆเขียนๆ ตอนนี้ทำงานเกี่ยวกับโลกไซเบอร์ เป็นคนชอบดูหนังมาก ดูได้ทุกแนว เมื่อดูจบแล้วมีอะไรค้างคาในใจก็จะมาระบายออกลงในบล็อกส่วนตัวเงียบๆ ใช้นามปากกาว่า นกไซเบอร์

You may also like...