นิทรรศการบนถนนราชดำเนิน

นิทรรศการบนถนนราชดำเนิน โดย จันอับ
วันสองวันนี้ถ้าคุณมีโอกาสผ่านบนเส้นทางถนนราชดำเนินตั้งแต่หน้ากรมประชาสัมพันธ์ถึงหน้าโรงหนังเฉลิมไทย หรือว่าจะย้อนจากหน้าโรงหนังเฉลิมไทยมาสุดที่หน้ากรมประชาสัมพันธ์ก็ได้เช่นเดียวกัน คุณจะเห็นภาพจิตรกรรมสีพลาสติกบนแผ่นไม้อัดขนาดใหญ่จำนวนมากบนเกาะกลางถนน ระหว่างเสาไฟตลอดทั้งถนน

ซึ่งท่านจะมองทางด้านซ้ายหรือขวาก็จะเห็นภาพจิตรกรรมดังกล่าวนี้เช่นเดียวกัน ก็เพราะเหตุว่าแต่ละคู่ของเสาไฟนั้น เขาก็เอาภาพจิตรกรรมติดตั้งประกบคู่หันหลังชนกัน คุณจึงดูได้ทั้งสองด้านโดยยกพื้นสูงขึ้นไปมากกว่าระดับสายตา คุณเคยดู หรือเคยเห็นแต่การแสดงนิทรรศการศิลปะในห้องแสดง ในอาคาร เพราะฉะนั้นคุณจะต้องรู้สึกตื่นเต้นเป็นธรรมดาที่มาเห็นนิทรรศการศิลปะกลางแจ้งในใจกลางเมืองที่เต็มไปด้วยการจราจรอันขวักไขว่ และแสงแดดที่ประกายปะทะกับสีที่ปลุกอารมณ์ และเรื่องราวที่รุนแรงโดยมีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเป็นแบคกราวน์ แม้งานศิลปะที่ติดตั้งแสดงกลางแจ้งครั้งนี้จะไม่ประณีตนักในแง่ของความงาม แต่เนื้อหาเรื่องราวนั้นล้วนสะท้อนออกมาจากความรู้สึกที่เจ็บปวด ความทรงจำอันขมขื่น อีกทั้งอาการเกลียดชังที่มีต่อจักรวรรดินิยมกับสมุนรับใช้ของจักรวรรดินิยมที่เข้ามามีบทบาทในการปิดกั้นเสรีภาพของผู้คนบนแผ่นดินนี้ ตามความเข้าใจดังที่กล่าวแล้วสามารถเป็นแรงเร่งเร้าอารมณ์ให้ศิลปินชุดนี้บรรเลงสีสันลงบนแผ่นไม้อัดได้อย่างรุนแรง เรื่องราวของงานจิตรกรรมชุดนี้จึงเป็นเรื่องของการต่อสู้ของประชาชน นักเรียน นิสิตนักศึกษา กับจักรวรรดินิยม และจอมเผด็จการที่ถูกระบุว่าเป็นสมุนรับใช้ตลอดมา

ท่าทีของงานศิลปะเป็นห่วงแต่เรื่องเนื้อหา และการปลุกเร้าที่จะให้ประชาชน ผู้คนทั่วไปได้มองเห็นกันอย่างแจ้งชัด และเกิดอารมณ์คล้อยตามไปกับผู้ที่สร้างมันขึ้นมา ความประณีตในเรื่องศิลปะ การทดแทนของสีที่ควรจะกลืนกันบ้างจึงขาดหายไปอย่างน่าเสียดาย นอกจากสีที่สดแพรวพราวดุเดือดจนค่อนกระเดียดไปทางโปสเตอร์มากขึ้นเพื่อผลของการปลุกเร้าอย่างเดียว ยังดีที่ว่าศิลปินที่สร้างงานจิตรกรรมคราวนี้มีความชำนาญและมีพื้นฐานมากพอสมควร การจัดวางรูปทรงของภาพจึงเอาตัวรอดไปได้ถึงแม้สีจะแพรวพราวเป็นโปสเตอร์และแพรวพราวมากขึ้นเมื่อจับต้องกับแสงแดดยามสายดังที่ว่าแล้ว แต่ถึงอย่างไรคุณก็ต้องตื่นใจไปกับมันเมื่อเส้นทางของคุณพาดผ่านมาบนถนนสายนี้ และยิ่งเร้าความรู้สึกคุณมากขึ้นหากคุณได้ผ่านมาบนเส้นทางถนนสายนี้เช่นเดียวกับเมื่อวันที่ 14 ตุลา 16

เมื่อคุณเห็นงานจิตรกรรมที่กึ่งโปสเตอร์เหล่านี้ความรู้สึกของวันคืนเก่าๆ จะผุดพายกลับคืนมา ผลก็คือคุณเจ็บปวดรวดร้าวและความรู้สึกจะบอกทันทีว่าคุณไม่ยอมแน่หากใครจะมาแย่งชิงประชาธิปไตย มากดขี่ข่มเหงรังแก ปิดกั้นเสรีภาพดังที่เคยเป็นมา คุณจะต้องลุกขึ้นต่อสู้อย่างแน่นอน และนี่ก็คือผลของภาพเขียนเหล่านี้

ศิลปินนั้นมีโอกาสมากมายที่จะปลุกเร้าอารมณ์คุณด้วยศิลปะ โดยคุณหรือเราแทบไม่รู้สึกตัวว่ามันเริ่มแล่นเข้ามาเมื่อดวงตาสัมผัสและถ่ายทอดมายังความรู้สึก นิสิตนักศึกษาต้องการผลเพียงเพื่อการปลุกเร้าและให้ประชาชนนึกถึงวีรกรรมที่เสียสละของวีรชนเมื่อ 14 ตุลาคม ดูเหมือนว่าจะได้ผลจากภาพเขียนที่เปิดแสดงอยู่ตรงกลางระหว่างช่องเสาไฟฟ้ากลางถนนราชดำเนินนี้ไม่น้อยทีเดียว แต่จุดมุ่งหมายมากกว่านั้นก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะได้ผลเพียงไหน คงไม่ถึงกับเลยเข้าสู่จุดการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นอย่างอื่นกระมัง

ศิลปินทั้งหลายที่เคยคิดว่าตนเองไม่สนใจกับความเป็นไปของบ้านเมือง ปิดกั้นสื่อสัมพันธ์ต่างๆในสังคม หมกมุ่นอยู่แต่ในหมู่เหล่าของตนเองดังแต่ก่อนนั้นนับวันจะหมดไป ปัจจุบันศิลปินได้ออกมามีบทบาททางการเมืองมากขึ้น และเขาก็สามารถที่จะชักจูงความรู้สึกของประชาชนให้คล้อยตามไปกับภาพเขียนของเขาได้

งานจิตรกรรมที่กำลังเปิดแสดงอยู่กลางถนนราชดำเนินนี้เป็นผลงานของแนวร่วมศิลปินแห่งประเทศไทยที่รวมตัวกันก่อตั้งขึ้นมาเมื่อไม่นานนี้ และผลงานนี้จะให้ความรู้สึกแค่ไหนเพียงใดนั้นประชาชนจะเป็นผู้รู้เห็นเอง โดยเฉพาะประชาชนที่จะมาชมนิทรรศการภาพเขียนกลางแจ้งบนถนนราชดำเนิน รวมทั้งผู้ที่ไม่ได้ตั้งใจมาชม แต่ต้องชมเพราะผ่านไปมาบนเส้นทางสายนี้ก็เช่นเดียวกัน

ที่มา: จันอับ. “นิทรรศการบนถนนราชดำเนิน” สยามรัฐรายวัน. 11 ตุลาคม 2518, หน้า 5.

You may also like...