สัญชัย อภิศักดิ์ศิริกุล

ศิลปะ คือสิ่งซึ่งสะท้อนความงาม สะท้อนความรุ่งเรืองและความโรยราของยุคสมัย เป็นสัญญะที่บอกเล่าเรื่องราว ตัวตน อัตลักษณ์ของชนชาติ สร้างความสุนทรียให้กับโลกมาโดยตลอด 

ศิลปะได้วิวัฒนาการตนเองจากวัง วัด สู่บ้าน สู่เมือง พื้นที่ทางศิลปะเติบโตขึ้นพร้อมๆกับศิลปินหรือจิตรกร ประเทศไทยเรามีการให้ความสำคัญกับแข่งขันสร้างงานศิลปะกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ กระทั่งในปัจจุบันมีผู้สนับสนุนงานศิลปะมากขึ้น มีพื้นที่แสดงตัวตน แสดงงานศิลปะมากขึ้น และมีเวทีประกวดงานศิลปะที่ให้โอกาสกับศิลปินเพิ่มขึ้น โครงการ UOB Painting of the Year ของธนาคารยูโอบี ก็เป็นหนึ่งในโครงการที่ต้องการสนับสนุนศิลปินให้มีพื้นที่แสดงงานศิลปะ มีโอกาสได้โชว์ผลงานศิลปะสู่เวทีระดับสากล และสิ่งสำคัญคือศิลปินได้ทำตามความฝันของตนเอง เราได้รับเกียรติจากคุณสัญชัย อภิศักดิ์ศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ การเงินและสนับสนุนธุรกิจธนาคารมาบอกเล่าถึงความสำคัญของโครงการ UOB Painting of the Year ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 31 แล้วที่ประเทศสิงค์โปร์ และสำหรับประเทศไทยปีนี้เป็นปีที่ 4

ประวัติส่วนตัว ก่อนจะมารับตำแหน่ง
ผมจบจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สาขาบัญชีบัณฑิต เมื่อปี พ.ศ. 2524 ปัจจุบันหน้าที่หลักของคือ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินของธนาคาร ยูโอบี จำกัด (มหาชน) ดูแลทางด้านการเงินของธนาคาร ดูกลยุทธ์ทางด้านธุรกิจและกลยุทธ์ทางด้านการเงินของธนาคารทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เป็นกรรมการธนาคาร กำกับดูแลการดำเนินกิจการของธนาคารโดยรวม

การเริ่มต้นงานประกวดศิลปกรรมของ UOB
ธนาคารยูโอบีUOB ไทยเป็นธนาคารในเครือของกลุ่มธนาคารยูโอบี ในประเทศสิงคโปร์ UOB เริ่มมาจากธนาคารยูโอบี UOB ที่สิงค์โปร์ได้มีการจัดโครงการ UOB Painting of the Year ต่อเนื่องกันมาถึง 31 ปีแล้ว หลังจากการที่ก่อตั้ง หรือถูกเทคโอเวอร์เข้ามาซื้อกิจการธนาคารในประเทศไทยแล้วก็ควบรวมเปลี่ยนชื่อเป็นธนาคารยูโอบี ธนาคาร UOB ในประเทศไทยขึ้น ในช่วงปีแรกๆเรามีการปรับตัวการควบรวมธุรกิจต่างๆจนเราพร้อม เราก็เริ่มหันมาดูเรื่อง CSR ส่วนนึงด้วยว่า CSR ในประเทศไทย ธนาคารสามารถจะคอนทิบิวส์อะไรได้บ้าง แล้วเราก็เห็นว่าส่วนหนึ่งที่จะช่วยได้ และดูสอดคล้องกับกลุ่มธนาคาร UOB ก็คือการสนับสนุนศิลปินไทยให้มีพื้นที่ มีโอกาส เราเลยนำเรื่อง UOB Painting of the Year มาเป็นกิจกรรมหลักอันนึงของทางธนาคาร เป็นกิจกรรมหลักของ CSR โดยที่เราเริ่มมา 3 ปีแล้ว ปีนี้ขึ้นปีที่ 4

ก่อนหน้านั้นธนาคารได้มีการทดลองเริ่มต้นในสเกลที่เล็กก่อน เปิดกว้างให้ศิลปินทั้งที่เป็นเยาวชนและระดับอุดมศึกษาส่งภาพเข้ามา ปีแรกๆสเกลจะไม่ใหญ่มาก กระทั่งชัดเจนขึ้นเมื่อ 3 ปีที่แล้วก็เรียก UOB Painting of the Year ต่อเนื่องกันมาเป็นปีที่ 4 ปีนี้มีศิลปินส่งรูปภาพเข้ามาร่วมมากขึ้นเรื่อยๆทั้งมืออาชีพ มือสมัครเล่น แล้วก็เยาวชน ต่อเนื่องกันมา ในปีนี้พอเรามีความชัดเจนขึ้น เราก็มีการปรับเปลี่ยนลักษณะการจัดงานและรูปแบบของงาน ให้สอดคล้องกันทั้งกลุ่มของธนาคาร UOB เดิมที่เราแบ่งเป็นระดับเยาวชนกับบุคคลทั่วไป เพราะฉะนั้นจิตรกรไม่ว่าจะเป็นมือสมัครเล่น หรือมืออาชีพส่งเข้ามาประกวดร่วมกันได้หมด พอปีนี้เราเริ่มชัดเจนขึ้น จึงแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม คือกลุ่มที่เป็นมืออาชีพกับกลุ่มศิลปินใหม่หรือสมัครเล่นบุคคลทั่วไป เหตุผลที่เราแบ่งชัดเจนมากขึ้นเพื่อที่จะให้จิตรกรมีโอกาสที่ชัดเจนขึ้น พวกที่เป็นมืออาชีพอยู่แล้วสามารถส่งภาพเข้ามาประกวดในกลุ่มเดียวกัน ฝีมือไล่ๆกัน มีเป็นที่พื้นที่เดียวกัน ขณะเดียวกันเราเปิดโอกาสให้พวกที่ไม่ใช่มืออาชีพทั่วไป คนที่ยังไม่เคยมีโอกาสได้แสดงผลงานชัดเจนขนาดนี้ ก็สามารถแข่งประกวดในประเภทเดียวกันได้ ขณะเดียวกันเราก็ขยายเงินรางวัลให้สูงขึ้นด้วย

ด้วยความที่เราเป็นหนึ่งในเครือ UOB ซึ่งกลุ่มสำนักงาน UOB ที่สิงค์โปร์ เราวางวิชั่นของเราเป็นวิชั่นแนลแบงค์ในโซนเซาท์อีสเอเชีย เพราะฉะนั้นในกลุ่มของเราก็จะมีธนาคารสาขาอยู่ในประเทศต่างๆไม่ว่าจะเป็นมาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย จีน กลุ่มเหล่านี้ก็ถือว่าเป็นเมมเบอร์ของธนาคาร UOB นี่คือโอกาสอันดีของจิตรกรในประเทศไทย เราเห็นจุดดีอันนี้ที่จะมาตอบแทนสังคม เพราะเราเปิดโอกาสให้จิตรกรไทยมีพื้นที่ ที่จะเข้าไปสู่ตลาดสากลได้ แปลว่าเมื่อได้ผู้ชนะในแต่ละประเทศ ก็จะส่งผลงานเข้าไปร่วมประกวดที่สิงค์โปร์ เมื่อประกวดแล้วก็จะได้แสดงภาพในสิงค์โปร์ ซึ่งเรารู้อยู่แล้วว่าตลาดในสิงค์โปร์เป็นตลาดสากล เช่นปีที่แล้วผู้ที่ได้รางวัลชนะเลิศ เขาค้าวาดเป็นรูปใบหน้าคุณยาย่าสวยงามมาก ภาพที่ชนะก็ได้ส่งเข้าร่วมประกวดกับประเทศอื่น แล้วรัฐบาลประเทศจีนเข้ามาดูผลงานที่พิพิธภัณฑ์แงชาติหอศิลปในประเทศสิงค์โปร์ เค้าเกิดความประทับใจในผลงานของศิลปิน ภาพนี้เลยได้ไปแสดงผลงานที่ประเทศจีนด้วย ปีก่อนหน้านั้นคุณสุวรรณี สารคณา สุวรรณา ซึ่งประกวดชนะที่ 1 เป็นรูปของครอบครัวที่นอนกันพ่อแม่ลูกบนเสื่อ แสดงให้เห็นความรักความอบอุ่นของคนไทยในภาคอิสาน สื่อถึงความอบอุ่น โดยแสดงให้เห็นถึงแสดงถึงภาพธรรมชาติที่เป็นไทยๆ สิ่งเหล่านี้ตรงกับวัตถุประสงค์ของ UOB ไทย ที่เราต้องการสนับสนุน เปิดโอกาสให้จิตรกรไทยมีพื้นที่ได้เข้าไปสู่ตลาดสากล

ในปีนี้ผู้ชนะเลิศจะมีโอกาสได้ไปแสดงผลงานที่สิงค์โปร์ จากนั้นจะได้ร่วมคัดเลือกโดยคณะกรรมการที่สิงค์โปร์ และมีศาสตราอาจารย์ปรีชา เถาทอง จะเป็นหนึ่งในคณะกรรมการที่ร่วมด้วย ผู้ชนะจะได้ไปแสดงผลงานที่หอศิลป์ฟุกุโอกะที่ประเทศญี่ปุ่น หอศิลป์นี้จิตรกรระดับโลกหลายๆคนเคยไปแสดง และมีบางคนที่แสดงอยู่แล้ว ซึ่งปีนึงๆหอศิลป์นี้จะได้แสดงแค่ 4 คน อันนี้ถือเป็นโอกาสอันดี ถ้าจิตรกรไทยของเราที่หนึ่งได้ไปร่วมประกวดที่นั่น และมีโอกาสได้คัดเลือกไปแสดงก็เท่ากับว่าเค้าเองได้แสดงงานในเวทีระดับโลก เวทีนี้เป็นอีกเวทีหนึ่งที่เราเชื่อว่าจะสามารถส่งเสริมให้จิตรกรไทยมีโอกาสก้าวเข้าสู่สากลและเป็นที่ยอมรับมากขึ้น

ประโยชน์ที่ได้จากการประกวดงานศิลปกรรม
ตัวนี้ผมมองเป็นหลายๆด้าน เราเป็นองค์กรทำธุรกิจอยู่แล้ว กิจกรรม UOB Painting of the Year นี้ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างกำไรให้แก่ธนาคาร แต่เรามองว่าเราสามารถทำประโยชน์ หรือคืนคุณค่าต่างๆให้กับสังคมไทยได้ยังไง อันนี้เป็นการคิดต่อเนื่องกันมา สำหรับการ UOB Painting of the Year ถือว่าเป็นประตูอันนึง ที่เราสามารถจะคืนคุณค่าเหล่านี้ให้กับสังคมได้ ประโยชน์ที่ได้จากการทำงานประกวดของธนาคารคือ เราสามารถตอบสนองต่อแนวคิดนี้ของเราได้

สำหรับประโยชน์ในด้านสังคม ผมมองว่างานศิลปะทุกยุคทุกสมัยมันจะคู่กับสังคมของมนุษย์ จากอดีตมาจนถึงปัจจุบันต่อเนื่องกันไป ช่วงเศรษฐกิจรุ่งเรืองในอดีต ศิลปิน หรือจิตรกรก็จะมีพื้นที่อยู่ได้เยอะ พอในช่ว

You may also like...