ถึงแม้คุณจะมีความสามารถสูงส่งและได้รับพรสวรรค์จากพระผู้เป็นเจ้า จนค้นพบความชอบในสิ่งที่ทำ แล้วทำมันได้ดีจนเริ่มประสบความสำเร็จ แต่คุณยังต้องพัฒนาตนเอง ต้องตระเตรียมและวางแผนต่อไป ไม่อย่างนั้นทุกอย่างก็คงเปล่าประโยชน์
จิรายุ จีระเสมานนท์ Jewelry/Prop Designer – Maker และ Jewellery&Ornamentally Adviser เป็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ค้นพบพรสวรรค์ของตนเอง เขาหมั่นฝึกฝนพัฒนาฝีมืออยู่ตลอดเวลา จนได้รับการยอมรับจากบริษัทชั้นนำและบุคคลที่มีชื่อเสียง เพราะดีไซน์ที่แปลกใหม่ ความซื่อสัตย์ และใส่ใจต่อลูกค้า วันนี้เขาได้ก้าวเข้ามาเป็นจิวเวลรีดีไซเนอร์อันดับต้นๆของไทย และอีกไม่นานเราคงได้เห็นเค้าก้าวไปไกลในระดับโลก
ประวัติส่วนตัว
“เราทุกคนเกิดมาบนโลกใบนี้พร้อมกับความว่างเปล่า” ใช่ครับ ชีวิตของผมก็เริ่มต้นด้วยความว่างเปล่าเหมือนกัน ตั้งแต่ลืมตาดูโลกอะไรต่อมิอะไรค่อยๆผ่านเข้ามาในหัวสมองของผม จนวันหนึ่งสิ่งที่มันผ่านเข้ามาซ้ำๆ เรื่องราวที่มันสัมพันธ์กันราวกับฟ้าประทานดลใจให้ผมรู้สึกตัวว่าผมเป็นใคร ผมเริ่มชอบงานศิลปะตั้งแต่จำความได้ ตอนนั้นผมก็ยังไม่รู้หรอกว่าศิลปะคืออะไรและมันมีประโยชน์กับผมยังไง แต่ความชอบก็นำพาผมผ่านประสบการณ์มากมายมาเรื่อยๆจนเริ่มรู้ว่าตัวเองต้องการอะไรกันแน่ ณ จุดนั้นเองทำให้ตัวผมเริ่มมีความฝัน หลังจากที่มีความฝันชีวิตของผมก็ไม่ว่างเปล่าอีกต่อไป
ผมเป็นเด็กกรุงเทพฯ เกิดและโตที่นี่ เป็นลูกคนสุดท้องจากพี่น้องทั้งหมด 5 คน รวมตัวผมเอง มีพ่อแม่เป็นลูกครึ่งไทย-จีนทั้งคู่ บรรพบุรุษรุ่นก่อนหน้านั้นก็หอบเสื่อผืนหมอนใบมาจากเมืองจีน ช่วงเวลาประมาณ ม.3 เมื่อผมเริ่มมีความฝันว่าอยากจะเป็น จิวเวลรี่ดีไซน์เนอร์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ผมเริ่มหาทางนำตัวเองไปสู่เส้นทางของคนจิวเวลรี่ ด้วยการไปนั่งดูคนจิวเวลรี่เขาทำงานกัน ศึกษาจากคนในวงการ ดูเขาออกแบบ ดูเขาคิด ดูเขาสร้างชิ้นงาน ร่วมกับการกลับมาฝึกทำด้วยตัวเอง บางอย่างก็ถามตรงๆได้ บางอย่างก็ต้องใช้วีธีลักจำ ผิดบ้างถูกบ้างก็ทดลองไปเรื่อยจนเริ่มเกิดความชำนาญและรู้ว่าวิธีไหนใช้ได้ วิธีไหนใช้ไม่ได้ จากการลองผิดลองถูกทำให้ผมได้แง่มุมความคิดแปลกๆบางอย่างเพิ่มขึ้น เมื่อผมพอจะทำได้แล้วผมก็ฝึกฝนและหาความรู้ให้ตัวเองไปพร้อมๆกับการรับงานของลูกค้า เพื่อประหยัดเงินในการซื้อของมาทดลอง และได้ทำงานจำนวนมากในเวลาที่น้อยลง หลังจากจบม.6 แล้วผมเข้าศึกษาต่อที่ภาควิชาออกแบบเครื่องประดับ คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร มันไม่ง่ายเลยสำหรับการทำงานเครื่องประดับที่ต้องเริ่มต้นด้วยเงินทุนหลังหักจากค่าขนมแค่ 70 บาทต่อวันของผมสมัยมัธยม พ่อแม่และครอบครัวของผมก็ไม่เคยเข้าใจว่างานศิลปะคืออะไร งานดีไซน์คืออะไร ผมเหมือนคนที่ต้องเดินไปท่ามกลางพายุ มันพยามยามจะพัดพาผมไปในด้านที่ตรงข้ามกัน เรื่องราวและประสบการณ์ของผมมันเยอะมากจริงๆเขียนใส่กระดาษ 10 แผ่นก็ยังไม่หมด บางวันก็ลำบากราวกับเป็นคนจรจัดเลย นอนข้างถนน ขอข้าวเหลือของคนอื่นกินฯลฯ ผมทำมาหมดแล้ว ผมพยายามจนถึงที่สุดเพื่อที่จะได้เดินตามความฝัน แล้วผมก็สร้างเรื่องราวใส่เข้าไปให้ตัวเองในทุกวัน เพื่อให้ความเป็นตัวเองชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
จากความว่างเปล่ากลายเป็นตัวตน ผมทำงานจิวเวลรี่มากว่า 8 ปี ทุกวันนี้ก็เริ่มมีคนรู้จักผมบ้างแล้ว แม้ว่าจะยังไม่ได้โด่งดังระดับโลกอย่างที่ฝันไว้ก็ตาม แต่ผมจะสู้ต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะถึงวันนั้น มีหลายสาเหตุที่ทำให้ผมมีแรงเหลือเฟือในการผลักดันตัวเอง สองสาเหตุหลักๆ คงเป็นเพราะพ่อกับแม่ของผม ด้วยความที่ผมเป็นลูกคนสุดท้อง ผมเกิดมาพร้อมอายุของพ่อกับแม่ที่เริ่มมากแล้ว ดังนั้นถ้าผมไม่รีบดูแลตัวเองให้ได้ เมื่อถึงวันที่ผมสามารถดูแลท่านได้ท่านอาจไม่อยู่ให้ผมดูแลแล้ว อีกเหตุผลหนึ่งคงจะเป็นความทะเยอทะยานในตัวของผมเอง ทำให้ผมพร้อมที่จะเดินไปตามเส้นทางความฝันนี้ ไม่ว่าจะต้องเจออะไรก็ตาม
งานที่ทำในปัจจุบันมีอะไรบ้าง
งานหลักๆของ NAI ก็จะเป็น Jewelry/Prop Designer – Maker และ Jewellery&Ornamentally Adviser รับออกแบบและผลิตชิ้นงานที่เกี่ยวกับเครื่องประดับทุกประเภทเลย รวมไปถึงงานพรอพด้วย NAI ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าในเรื่องของความแปลกใหม่ และการทำงานด้วยความซื่อตรงกับลูกค้ามาโดยตลอด งานชิ้นใดที่ลูกค้าได้ไว้วางใจให้ NAI เป็นผู้ออกแบบ จะไม่มีการนำแบบนั้นไปใช้ซ้ำ เผยแพร่ หรือให้ใครมีโอกาสได้ชมเด็ดขาด อีกทั้งประสบการณ์ในการให้ความรู้ เขียนบทความ แนะนำการเลือกใช้เครื่องประดับให้เหมาะสม และอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเครื่องประดับมาตลอดระยะเวลาการทำงานกว่า 8 ปี แต่ยังคงศึกษาหาความรู้ความเข้าใจที่ทันสมัยอยู่เสมอ ดังนั้นลูกค้าจึงมั่นใจได้ว่า NAI จะทำหน้าที่ Jewellery&Ornamentally Adviser ให้ข้อมูลและเลือกสิ่งที่เหมาะสมคู่ควรที่สุดแก่ตัวลูกค้าที่เข้ามาปรึกษาแน่นอน
แรงบันดาลใจที่ทำให้สนใจงานออกแบบเครื่องประดับ ตั้งแต่แรกมาจนถึงปัจจุบัน
อันดับแรกก็คงเป็นอายุของพ่อกับแม่ครับ ที่ทำให้ผมต้องเร่งทำงานและดูแลตัวเองให้ได้เร็วๆ เพื่อที่จะดูแลท่านให้สุขสบายได้ทันท่วงที และต่อมาแรงบันดาลใจที่ทำให้ผมสนใจงานออกแบบเครื่องประดับ จริงๆแล้วผมได้ลองทำงานออกแบบมาหลายๆด้าน แต่ผมรู้สึกว่างานเครื่องประดับนี่หละที่ตอบโจทย์ความเป็นผมได้ดีที่สุด ผมเป็นคนที่มีความเป็นตัวของตัวเองค่อนข้างสูง เข้าใจได้ยาก และนั่นคือสิ่งที่ทำให้เครื่องประดับตอบโจทย์ผม แม้ว่าผมจะมีแนวคิดหรือตัวตนที่เป็นนามธรรมก็ตามผมสามารถแสดงออกมาเป็นรูปธรรมได้ในงานเครื่องประดับ เครื่องประดับเป็นสิ่งที่ทำให้คนเรายอมเจ็บตัวเพื่อที่จะสวมใส่มันด้วยการฝัง เจาะ รัด ฯลฯ ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่คนจะทำให้คนยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อเครื่องประดับนอกจากเรื่องราวและความสวยงามของมัน เพราะเครื่องประดับไม่ได้ขายมาพร้อมกับฟังก์ชั่นเหมือนงานออกแบบประเภทอื่นๆ นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีเสน่ห์และความมหัศจรรย์อีกมากมายเลยที่ทำให้ผมหลงใหลในสิ่งนี้
ปัญหาและอุปสรรคของงานที่ทำ
อุปสรรค์ของผมก็คงเป็นเรื่องของทุน ผมยังไม่มีทุนมากพอที่จะตั้งบริษัทใหญ่โตมีพนักงานเยอะๆ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นปัญหาหนักหนาอะไร เพราะทุกวันนี้ก็มีความสุขดีอยู่แล้วกับการทำงานที่ผมรัก ค่อยๆสั่งสมความลูกค้าและเงินทุนเพิ่มเติมไปเรื่อยๆก็ได้
ขั้นตอนการออกแบบ การทำงานคร่าวๆเป็นอย่างไร
ขั้นตอนในการออกแบบก็แล้วแต่ว่าผมจะผลิตงานชิ้นนั้นเพื่อใคร มีจุดประสงค์อะไร ถ้าผลิตชิ้นงานเพื่อวางขายก็ต้องดูว่าจะขายใคร ผู้หญิงหรือผู้ชาย วัยไหน ขายที่ไหน เจาะกลุ่มตลาดไหน อะไรแบบนี้ แต่งานส่วนใหญ่ของผมจะเป็นงานสั่งทำเฉพาะมากกว่า ดังนั้นสิ่งที่ผมต้องรู้ก่อนก็คือลูกค้าของผมเป็นใคร จะใส่ไปงานอะไร รูปหน้าเขาเป็นอย่างไร ลำคอเขาเป็นอย่างไร สีผิวเขาเป็นอย่างไร สิ่งที่จิวเวลรี่ดีไซน์เนอร์ที่ดีจำเป็นต้องรู้ก็คือจิวเวลรี่แบบไหนเหมาะกับคนที่มีรูปหน้าแบบไหน เครื่องหน้าแบบไหน ฯลฯ ซึ่งต้องใช้เวลาและประสบการณ์ในการสั่งสมความรู้ความเข้าใจ ไม่มีกฏเกณฑ์ตายตัวว่าอะไรใช่หรืออะไรไม่ใช่ มันจำเป็นมากๆเพราะนอกจากผมจะต้องรู้ว่าทำอย่างไรเครื่องประดับของผมจึงจะออกมาสวยแล้ว ผมต้องรู้ด้วยว่าผมจะใช้เครื่องประดับช่วยในการส่งเสริม-แก้ไขข้อดี/ข้อเสียบนใบหน้าและส่วนนั้นๆของเขาได้ให้มากที่สุดและเหมาะสมกับเขามากที่สุดอย่างไร ก่อนที่จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการออกแบบ
การตอบรับจากลูกค้าดีแค่ไหน มีการโปรโมทอย่างไร
ส่วนใหญ่ผมก็ไม่ค่อยได้โปรโมทตัวเองนะ แต่จะเป็นการบอกปากต่อปากของลูกค้า หรือไม่ก็ได้เจอได้รู้จักกันส่วนตัวมากกว่า การตอบรับจากลูกค้าค่อนข้างโอเค เพราะผมทำงานมานานพอสมควรแล้ว
– ผมออกแบบและผลิตเครื่องประดับให้กับแฟชั่นโชว์ นิตยสาร งานด้านแฟชั่น คอนเสิร์ต ศิลปิน-ดารา ลูกค้าทั่วไป ฯลฯ
– นิตยสารหลากหลายให้การยอมรับ และติดต่อขอยืมเครื่องประดับของ NAI เพื่อใช้ในการถ่ายภาพแฟชั่น รวมไปถึงสั่งทำพิเศษสำหรับการถ่ายทำหรือใช้ในวาระโอกาสต่างๆด้วย ไม่ว่าจะเป็น Volume , Pheromone Asia , G1 ,Hisoparty , Lisa , Celeb Thailand , ผู้หญิง , ชีวจิต ฯลฯ
– ผลงานของ NAI กับงานโชว์ต่างๆ (เช่น แฟชั่นโชว์ คอนเสิร์ต ภาพยนตร์) ก็ได้ผ่านการร่วมงานกับบริษัทและบุคคลมีชื่อเสียงค่อนข้างหลากหลาย อาทิ Thai Super Model , Surface , Greenwave , Living Film Entertainment , Siam Paragon , Sinequanone , คริสติน่า อากีลาร์ , เอกมล อรรถกมล , กรมการส่งออก ฯลฯ
– มีประสบการณ์ในการให้ความรู้ เขียนบทความ แนะนำการเลือกใช้เครื่องประดับให้เหมาะสม และอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเครื่องประดับมาตลอดระยะเวลาในการทำงาน สิ่งต่างๆเหล่านี้หละเป็นตัวประชาสัมพันธ์ให้ผม โดยที่ผมก็ทำงานของผมไปเรื่อยๆครับ
ความฝันสูงสุด
ความฝันสูงสุดของผมคือการได้เป็นจิวเวลรี่ดีไซน์เนอร์ระดับโลก และเห็นวงการออกแบบของไทยเติบโตไปพร้อมๆกัน ผมอยากให้ทุกคนโฟกัสไปที่การมุ่งมั่นพัฒนาผลงานของตนให้มากกว่าการตั้งหน้าตั้งตาขัดขาคนไทยด้วยกันเอง และผมมีความเชื่อมั่นว่ามันเป็นไปได้ที่วันหนึ่งประเทศไทยจะเป็นผู้กำหนดเทรนด์โลก แต่อาจจะต้องใช้เวลานานสักหน่อย
มองว่าสิ่งใดที่ทำให้จิรายุ จีระเสมานนท์ ประสบความสำเร็จในงานที่ทำ
คงเป็นเพราะความคิดและมุมมองประหลาดๆบางอย่างของผม แต่สิ่งหนึ่งที่ผมยึดถือมาตลอดคือไม่ว่าอย่างไรก็ตามผมจะพูดความจริงและซื่อสัตย์กับลูกค้า งานไหนที่ผมทำได้ผมก็จะบอกว่าทำได้ อันไหนที่ทำไม่ได้ผมก็จะพูดตรงๆ และไม่รับงานนั้น ผมจะทำงานให้อยู่ในระดับมาตรฐานของผมเสมอ ถ้าต้องการงานที่คุณภาพต่ำกว่ามาตรฐานของผมก็คงต้องบอกตรงๆว่าผมทำให้คุณไม่ได้หรอก
Jirayu Jeerasemanon (NAI) Jewelry/Prop Designer – Maker และ Jewellery&Ornamentally Adviser
Address : ห้างทองเมืองทอง 254/18-19 ถ.ประดิพัทธ์ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400
Mobile : 083 – 7592839
E-mail : Dr.sembe123@hotmail.com
Website : www.facebook.com/jirayu-jeerasemanon
