ชัมบาลา การเดินทางเพื่อไถ่โทษ

ถือเป็นอาถรรพ์เล็กๆของวงการหนังไทย ที่หนังแนวโร้ดมูฟวี่(หนังที่มีการเดินทางเป็นส่วนประกอบหลัก)ไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไหร่ อาจจะไม่ถูกจริตคนไทย จึงแทบไม่เคยมีเรื่องไหนเลยที่ได้กำไรเลย ยิ่งเรื่องไหนไปถ่ายเมืองนอกงบบานปลายยิ่งไปกันใหญ่ โชคดีที่ผู้สร้างยังไม่ท้อ เราจึงได้เห็นโปรเจกต์ ชัมบาลา

แม้หนังเรื่องนี้จะขลุกขลักและต้องใช้การรอนานสักหน่อย(10ปีจากวันที่ ปัญจพงศ์ คงคาน้อย เริ่มลงมือทำ) ที่สุดก็ได้ลงโรงฉายท่ามกลางกระแสตอบรับที่ดีพอสมควร ชื่อของ ณัฐวุฒิ กิตติคุณ กับ ปัญจพงศ์ คงคาน้อย อาจจะไม่คุ้นหูคอหนังนัก ทว่าการแสดงร่วมกันของ อนันดา เอเวอริงแฮม กับ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ ดูน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ส่วนแรงดึงดูดอีกอย่างก็คือ ทิเบต ประเทศที่หลายคนใฝ่ฝันว่าจะได้ไปเยือนสักครั้งในชีวิต

ชัมบาลา ว่าด้วยเรื่องการเดินทางไปทิเบตของ วุฒิ(ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์) ชายหนุ่มผู้จริงจังในชีวิต เพื่อทำให้ความฝันของ น้ำ(ฝน นลินทิพย์ เพิ่มภัทรสกุล) แฟนสาวที่ป่วยหนักให้เป็นความจริง เธอต้องการให้แฟนหนุ่มไปเห็น ชัมบาลา ดินแดนที่ผู้คนเชื่อกันว่า เป็นประตูของโลกที่อยู่ในจุดที่ใกล้กับสวรรค์มากที่สุด เหมือนกับที่เธอเคยเห็น ลึกๆ วุฒิ มีความหวังว่าการเดินทางครั้งนี้จะทำให้เธอดีขึ้นและคิดว่าจะเป็นการไถ่โทษที่เขาไม่ได้มากับเธอ

วุฒิ หาคนไปเป็นเพื่อนไม่ได้ ประจวบเหมาะกับที่ ทิน (อนันดา เอเวอริงแฮม) พี่ชายจอมเสเพล ปากหมา ขี้เหล้า เสนอตัวเดินทางไปเป็นเพื่อนในฐานะช่างภาพ ถึงภายนอกเขาจะร่าเริงไม่ทุกข์ร้อนอะไร แต่ภายในใจ ทิน ยังคงไม่ลืม เจน (โอซา แวง)อดีตคนรักที่จากไป ทั้งคู่ร่วมทางมุ่งหน้าสู่ ชัมบาลาโดยมี ตาว่า ไกด์ชาวทิเบตที่พูดไทยคล่องปรื๋อนำทางพวกเขาตั้งแต่จีนจนถึงทิเบต ดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์ที่วันๆผู้คนเอาแต่สวดภาวนาให้คนรัก วุฒิ และ ทิน ต่างแบกความลับในอดีตเดินทางไปด้วย ที่สำคัญมันเป็นความผิดที่ยังไม่ได้รับการอภัย นานเข้าคล้ายกับว่ามันหนักขึ้นเรื่อยๆ จนทั้งคู่ต้องตัดสินใจวางมันลงณ.ที่แห่งนั้น

บทภาพยนตร์ที่หลายคนอาจจะบอกว่าไม่ได้มีเนื้อหาอะไรมากนั้น ส่วนตัวเห็นว่าความดีงามอยู่ที่รายละเอียด บทสนทนาคำพูดของตัวละครแฝงนัยต่างๆอย่างลึกซึ้ง คำคมที่ถูกนำเสนอคมคายแบบไม่ได้ตั้งใจจะคม มันเลยดูเป็นธรรมชาติ แม้ต้องตีความบ้าง แต่ก็เข้าใจได้ง่าย ไม่ได้ลึกหรือยากจนเกินจะเข้าถึง สำหรับมุขตลกก็ขำแต่พองาม คำหยาบที่พูดก็ไม่ได้ก้าวร้าวจนเสียหาย

การแสดงของ อนันดา ไม่เคยทำให้ผิดหวัง พูดภาษาบ้านๆต้องบอกว่าเล่นได้กวนตีนมากๆ ขณะเดียวกันเมื่อถึงตอนจบเราจะพบว่าตัวละครมีการพัฒนา จากความผิดในใจที่ตามหลอกหลอน ทำให้ ทิน อ่อนแอลง(ในอีกทางหนึ่งอาจเข้มแข็งขึ้น) รวมถึงเปลี่ยนความคิดและยอมรับความเชื่อใหม่ๆที่เขาดูถูกมาตลอด

ส่วน ซันนี่ ทำได้ดีไม่แพ้กันในบทชายหนุ่มผู้มุ่งมั่นในความรัก เรื่องนี้เขาต้องมีท่าทีจริงจัง พร้อมลดบุคลิกกวนๆที่เป็นคาแร็คเตอร์ประจำลง เพื่อหลีกทางให้ อนันดา รับหน้าที่แทน จะมีก็ในฉากร่วมดื่มสุราของสองพี่น้องที่เขาหลุดตัวตนออกมา ซึ่งก็ไม่ได้ร้ายแรงถึงขั้นขโมยซีนแต่อย่างใด บวกกับการแสดงแบบเรียบง่ายของนักแสดงชาวทิเบตที่รับบทเป็น ตาว่า นับเป็นส่วนผสมที่กลมกล่อมลงตัวทีเดียว

ด้านการถ่ายภาพที่เป็นจุดขายหลักของหนังแนวนี้ ผู้กำกับถ่ายทอดภาพการเดินทางโดยแทรกภาพวิถีชีวิตของคนทิเบตได้สวยงามลงตัว เชื่อว่าหลายคนดูแล้วคงคันเท้าอยากจะไปยํ่าหลังคาโลกกับเขาบ้าง จุดไคล์แม็กซ์ของหนังคือการเฉลยความลับที่เก็บไว้ในใจของตัวละครทำได้เข้าถึงอารมณ์ดี แม้ไม่ได้สะเทือนใจหรือฟูมฟายมาก(เพราะบิ้วมานานจนคนดูพอจะเตรียมใจหรือคาดเดาได้บ้าง) แต่มันก็เป็นความเจ็บปวดที่บาดลึก พอดีกับที่เสียงเพลง ประโยคบอกเล่า โดย พี่เล็ก greasy cafe บรรเลงขึ้นมาในตอนจบ จังหวะนี้หลายคนที่กำลังอินกับเรื่องความผิดในอดีตอาจมีนํ้าตาซึม

ต้องบอกว่าไม่บ่อยนักที่เราจะได้ดูหนังไทยที่มีเนื้อหากล่าวถึงปรัชญาชีวิตได้ดีขนาดนี้ เป็นนิมิตรหมายอันดีในการล้างอาถรรพ์ของหนังโร้ดมูฟวี่เมืองไทย หากเรื่องนี้ทำรายได้ดีอาจได้เห็นหนังแนวเดินทางดราม่าดีๆอีก เมื่อนั้นเราอาจหลุดจากวังวนหนังตลกหรือหนังผีครองตลาดเสียที

ที่สุดแล้ว ทั้ง วุฒิ และ ทิม ที่ปีนภูเขาฝ่าความหนาวเหน็บยาวนานกลับพบว่า ชัมบาลา ไม่ใช่สถานที่ หากแต่เป็นสิ่งที่อยู่ในใจของพวกเขาต่างหาก ว่าแล้วก็ลองไปค้นหา ชัมบาลา ของคุณดูสิ

อยากชมตัวอย่างหนังแอนิเมชั่นแนวโร้ดมูฟวี่แห่งปี สามารถเข้าไปชมได้ที่  http://www.majortrailers.com/

edit @ 6 Sep 2012 09:11:11

By : นกไซเบอร์

ติดตามต่อได้ที่ : http://cyberbird.exteen.com/20120905/entry

สิทธิโชติ สุภาวรรณ์ (นกไซเบอร์ )

จบด้านขีดๆเขียนๆ ตอนนี้ทำงานเกี่ยวกับโลกไซเบอร์ เป็นคนชอบดูหนังมาก ดูได้ทุกแนว เมื่อดูจบแล้วมีอะไรค้างคาในใจก็จะมาระบายออกลงในบล็อกส่วนตัวเงียบๆ ใช้นามปากกาว่า นกไซเบอร์
 

You may also like...