ฮ่องกงน่าจะเป็นไม่กี่ที่ในโลกที่มีการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมของชาวเอเชียกับชาวยุโรปได้อย่างกลมกลืนเราเห็นคนที่นั่นในชื่อฝรั่งแต่พูดคุยภาษาฮ่องกง เราเห็นคนฮ่องกงพูดภาษาอังกฤษ เราเห็นฝรั่งพูดคุยภาษาฮ่องกง
เกาะเล็กๆที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้ถูกส่งคืนให้จีนแผ่นดินใหญ่เมื่อวันที่ 1 กรกฏาคม ค.ศ. 1997 หลังจากที่อยู่ภ่ายใต้การปกครองของประเทศอังกฤษเป็นเวลาร้อยปี หลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปนับตั้งแต่นั้น สำหรับคนวงการหนังต้องบอกว่ามันเปลี่ยนแปลงไปในทางที่แย่ลง หนังฮ่องกงที่เคยผงาดในเอเชียเสียตำแหน่งให้กับ ญี่ปุ่น และ เกาหลี
ทั้งนี้ หลังจากซบเซาอยู่ระยะหนึ่ง ด้วยหนุนหลังครั้งใหม่โดยประเทศจีน บัดนี้พวกเขากลับมาทวงบัลลังก์ที่หนึ่งของประเทศส่งออกหนังอีกรอบ ด้วยความสำเร็จของ Infernal Affairs 3ภาค ที่ฮอลลีวู้ดนำไปรีเมกใหม่เป็น The Departed จนได้รางวัลออสการ์
Quattro Hong Kong 2 เป็นหนึ่งในหนังที่ร่วมฉายในงานเทศกาลภาพยนตร์ฮ่องกง และเป็นเรื่องหนึ่งที่ถือว่าเล่าถึงวิถีชีวิตของชาวฮ่องกงได้ดีที่สุด ซึ่งเป็นโปรเจกต์หนังสั้นที่รวมมาเป็นหนังยาว อยู่ในโครงการเฉลิมฉลองเกาะฮ่องกงรวมถึงเป็นโปรเจกต์ต่อเนื่องจาก Quattro Hong Kong 1
ตอนแรกว่าด้วยเรื่องของฮ่องกงในยุคก่อนที่กลายเป็นเมืองสมัยใหม่ข้าวเหนียวผัดจานหนึ่งราคาไม่เกิน 50 เซนต์ เมื่อความเจริญเข้ามาขนมชนิดนี้ก็แทบจะหายสาบสูญไป ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินทางกลับมาบ้านเกิดเพื่อพบว่าอาหารจานโปรดของเขากลายเป็นความยุ่งยากของพ่อครัวในร้านอาหารหรู แถมมีราคาแพงพอๆกับอาหารหรูๆ ด้วยเหตุผลว่าหากินไม่ได้แล้ว
เป็นตอนที่ผมชอบที่สุด หนังตัดสลับไปมาระหว่างอดีตกับปัจจุบัน ข้าวเหนียวผัดรสชาติเป็นไงผมไม่รู้ แต่ดูแล้วนํ้าลายสอจริงๆ ไม่นับถึงกระตุกต่อมความหลังชวนให้คิดถึงขนมที่เราเคยชอบในสมัยเด็ก มีการแฝงประเด็นเรื่องทุนนิยมพอสมควรในฉากร้านอาหาร ขณะที่ชายหนุ่มหิ้วข้าวเหนียวผัดที่รอคอยนานหลายชั่วโมงออกไป ก่อนหน้านั้นมีหญิงต่างชาติหิ้วของมากมายที่ได้จากการช็อปปิ้งกลับประเทศ ฉากที่ชายผู้รำลึกความหลังไปยืนผัดข้าวเหนียวขายโดยมีเด็กหญิงมารอกิน ดูอบอุ่นไม่แพ้ ตอนที่เด็กชายนั่งคอยคุณยายเข็นรถมาขายข้าวเหนียวผัด
ตอนที่สอง ชายหนุ่มคนหนึ่งตระเวนราตรีพร้อมกับพูดคุยโทรศัพท์กับใครสักคน อีกด้านหนึ่งหญิงสาวก็ตระเวนราตรีพร้อมกับกำลังคุยโทรศัพท์กับใครสักคน ความลับคือพวกเขากำลังสนทนากันหรือกำลังคุยกับใครกันแน่
บทมีลูกล่อลูกชนให้คนดูสับสนกับบทสนทนาของคนทั้งสอง ชายหนุ่มและหญิงสาวต่างเปลี่ยวเหงาในคํ่าคืนเพียงลำพัง ผิดกับปลายสายที่พวกเขากำลังคุยด้วย นอกจากนี้ยังถ่ายทอดแสงสีและชีวิตกลางคืนของคนฮ่องกงได้อย่างดีคงเหมือนใครหลายคนบนเกาะแม้ทั้งคู่จะพบเจอเรื่องราวมากมาก ทว่าสุดท้ายแล้วมันก็จบลงด้วยความว่างเปล่าอีกคืน
ตอนที่สาม เป็นเรื่องของเด็กชายคนหนึ่งที่แม่ชอบพาไปดูหนัง แม่บอกเขาว่าเป็นนักแสดงและพ่อของเขาเป็นนักแสดงชื่อดัง เขาเติบโตขึ้นโดยฝังใจกับหนังมากมาย ถึงแม่ของเขาจากไปแล้ว และความลับที่ว่าพ่อของเขาคือใครก็ยังไม่มีการเปิดเผย แต่เขาก็ชอบหนังเป็นชีวิตจิตใจ
นับเป็นตอนที่ผมเข้าไม่ถึงที่สุด หนังใช้เทคนิคหลายอย่าง ทั้งการนำหนังในอดีตมาทำใหม่ การใส่ภาพกราฟฟิกเพิ่มแสงสีเสียง โดยไม่มีการสื่อสารออกมาทางบทสนทนาหรือบทบรรยายเท่าไหร่ คนดูจึงตามไม่ทัน และไม่เข้าว่าผู้กำกับต้องการสื่ออะไร คล้ายกับการเป็นหนังทดลองมากกว่า
ตอนที่สี่ สร้างจากข่าวจริงที่เกิดขึ้นในเกาะฮ่องกงบ่อยๆ เมื่อรถลึกลับคันหนึ่งเข้าจอดหน้าดรงแรมเก่าที่มีสองสาวพี่น้องเป็นเจ้าของ ชายคนหนึ่งเช็กอินเข้าพักพร้อมกระเป๋าใบใหญ่ อีกด้านหนึ่งทีมตำรวจฮ่องกงได้ร่วมมือกับทีมตำรวจจากต่างประเทศเพื่อติดตามสัตว์ป่าที่ถูกลักลอบนำเข้ามา
การเดินเรื่องทำได้ลึกลับชวนติดตาม สร้างความสงสัยให้คนดูที่อยากรู้ว่าในกระเป๋าใบใหญ่มีอะไร แต่ก็จบลงด้วยการหักมุมที่เป็นแบบตลกร้ายจนคนดูตั้งตัวไม่ทัน พร้อมกับฝากอะไรหลายอย่างให้เรากลับไปคิดตาม (การสรุปเรื่องเป็นตัวอักษรในตอนท้ายก็ยังไม่ไขความกระจ่างได้)
ตอนสุดท้าย เล่าถึงชีวิตของชายชราที่อาศัยในชุมชนชาวประมงคนเดียว หลังการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของภรรยาเขาเดินออกจากบ้าน ไปที่ตลาดดอกไม้ ทักทายผู้คน ซื้อของ
หนังเรื่องนี้เป็นการสำรวจวิถีชีวิตของชาวฮ่องกงในชุมชนนอกเมือง พวกเขาอยู่กับแบบเรียบง่าย ความผันผวนทางเศรษฐกิจ ตลาดหุ้น อาจมีผลกระทบกับพวกเขาน้อยมาก
เป็นเวลาไม่กี่ชั่วโมงที่เราได้สัมผัสคนฮ่องกงและเกาะร่วมสมัยแห่งนี้ผ่านหนังสั้นในระดับที่ลึกซึ้งพอสมควรเสียดายที่รอบที่ผมเขาไปชม ตัดเอา M Hotel ตอนที่ อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล กำกับออกด้วยเหตุผลทางเวลา จึงอดเหวอไปกับฝีมือของผู้กำกับชาวไทยคนเดียวที่ได้รับการเชิญให้ร่วมโปรเจคนี้
By : นกไซเบอร์
ติดตามต่อได้ที่ : http://cyberbird.exteen.com/20120723/quattro-hong-kong-2-3
สิทธิโชติ สุภาวรรณ์ (นกไซเบอร์ )
จบด้านขีดๆเขียนๆ ตอนนี้ทำงานเกี่ยวกับโลกไซเบอร์ เป็นคนชอบดูหนังมาก ดูได้ทุกแนว เมื่อดูจบแล้วมีอะไรค้างคาในใจก็จะมาระบายออกลงในบล็อกส่วนตัวเงียบๆ ใช้นามปากกาว่า นกไซเบอร์
