BONG SROLANH OUN

“บองสรันโอน” ถ่ายทอดเรื่องราวของ “ดล” กราฟิกดีไซเนอร์หนุ่ม ผู้หวนกลับมาเช่าห้องพักห้องเดิมที่เคยอยู่กับแฟนสาวในอดีต หลังกลับมาจากการเรียนต่อต่างประเทศ เขาเป็นคนเงียบขรึม และตั้งใจทำงาน “ดล” ไม่คิดจะมีใครใหม่อีกเลย แม้จะมีหญิงสาวมาสนใจเขาหลายคน แต่เขายังคงหวังใจอยู่ลึกๆ ว่า สักวันหนึ่งแฟนสาวจะกลับมา เขายังคงคิดถึงเรื่องราวเก่าๆ ในห้องเช่าห้องเดิม กระทั่งวันหนึ่งเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นภายในห้องพักของเขา บวกกับมีเหตุการณ์ลึกลับหลายอย่างที่กระตุ้นให้เขาฉุกคิดขึ้นว่า ในห้องพักของเขามี “ใคร” หรือ “อะไร” อยู่หรือเปล่าที่นอกเหนือไปจากตัวเขาเอง ดังนั้นเขาจึงออกเดินทางค้นหาความจริงที่ประเทศกัมพูชาว่า คนที่เคยพักอยู่ในห้องนั้นคือใคร และเกิดอะไรขึ้นกับเธอ

Producer’s Note : ศิวาภรณ์ พงษ์สุวรรณ
ด้วยความที่ปกติมักจะทำหน้าที่โปรดิวเซอร์ของหนังเป็นหลัก บางทีคิดโปรเจ็กต์ จัดหาของ โลเกชั่น ดีลนักแสดงมาแสดง และอื่นๆอีกหลายอย่างด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นการประกอบสิ่งเหล่านี้แล้วมอบหน้าที่ให้คนอื่นทำหน้าที่กำกับแทน ซึ่งทำแบบนี้หลายครั้ง มาครั้งนี้ได้หวนกลับมาทำหน้าที่กำกับอีกครั้ง หน้าที่ของโปรดิวเซอร์ก็ยังตกเป็นของตนเองอยู่อีกเหมือนเดิม เพราะเป็นโปรเจ็กต์ของเราเองมาแต่แรก

โจทย์ที่สำคัญที่สุดของหนังเรื่องนี้คือ จะทำอย่างไรให้ใช้เงินนั้นได้คุ้มค่าที่สุด และหนังออกมาดูดีมากที่สุดเท่าที่เงินจะเดินทางไปถึง งานหลายๆส่วนในหนังจึงหนักมาก สำหรับทีมที่ต้องรับหน้าที่หลายๆตำแหน่งไปพร้อมๆกัน เพราะถ้ามีเงินทุนถึง มันก็ง่ายและสบายกว่าในแง่ของการทำงาน และการดีลกับผู้คน ไม่ว่านักแสดงหรือทีมงาน ซึ่งสำหรับเรื่องนี้ต้องขอขอบคุณนักแสดงและทีมงานทุกท่านที่เข้ามาช่วยกันลงแรง ลงใจ มาร่วมกันสร้างสรรค์งานให้ทุกคนได้ดู ซึ่งเราเองก็รู้สึกซาบซึ้งใจมากๆ

นอกจากนี้ด้วยความที่มีทุนสร้างอย่างจำกัด ทำให้เราและทีมงานหลักต้องทำงานและช่วยกันวางแผนการทำงานไปพร้อมๆกับการใช้งบประมาณในแต่ละแผนกกันอย่างละเอียดให้รอบคอบมากที่สุด ซึ่งสำหรับเราเองสิ่งนี้เป็นเรื่องที่น่าหนักใจมาก เพราะเราต้องนำทีมงานเดินทางไปถ่ายทำที่ประเทศกัมพูชาด้วย อีกทั้งมีนักแสดงต่างประเทศมาร่วมงานด้วย 2 ท่าน เรื่องการเดินทางและดูแลในระหว่างมาถ่ายทำอยู่ที่เมืองไทย ดังนั้นในส่วนของโปรดิวเซอร์โน้ตนี้จึงไม่มีอะไรให้คิดมากไปกว่าจะทำอย่างไรให้เงินที่มีอยู่นั้นออกมาคุ้มค่ากับการใช้เงินมากที่สุด และกองถ่ายทำงานได้ราบรื่นที่สุดด้วย

Director’s Note : ศิวาภรณ์ พงษ์สุวรรณ
“บองสรันโอน” เป็นโปรเจ็กต์ที่คิดไว้เมื่อ 2-3 ปีแล้ว ซึ่งเป็นไอเดียที่ต่อยอดมาจากประสบการณ์ส่วนตัวที่ครั้งหนึ่งมีโอกาสไปช่วยเพื่อนย้ายห้องพัก ในเวลานั้นแอบคิดในใจตามประสาคนเขียนบทว่า หากในห้องพักนั้น มีรูมเมทที่ไม่ใช่ “คน” อยู่ร่วมกับเขาในห้องโดยที่เขาไม่รู้ตัว และรูมเมทผู้นั้นเกิดหลงรักเขาด้วย แล้วจะรู้สึกอย่างไรหากว่าเขากำลังจะย้ายออกไป ไอเดียนี้มันฝังใจอยู่นานและคิดอยากจะพัฒนาเรื่องราวต่อไป จนกระทั่งคิดจะทำหนังผี เรื่องราวนี้ก็ยังคงติดใจเราอยู่ เราเลยพัฒนาโครงเรื่องต่อมาและผนวกกับการที่เราไปถ่ายงานโฆษณาที่ประเทศกัมพูชาบ่อยๆ จึงคิดอยากจะมาถ่ายภาพยนตร์ที่นี่บ้าง ตัวละครหลักอีกตัวจึงมาจากที่นี่ ไอเดียทั้งหลายก็เลยมาผนวกรวมกันออกมาเป็นหนังเรื่องนี้ “บองสรันโอน” โดยที่ประโยค “บองสรันโอน” นั้นแปลตรงตัวก็คือ “พี่รักน้อง” ซึ่งมักจะมีคนถามมาเสมอๆ ว่า ทำไมต้องมีชื่อเป็นภาษาเขมร นั่นเป็นเพราะประโยคนี้มันเป็นกุญแจสำคัญของเรื่องราว ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับความรัก เราก็อยากจะได้ชื่อหนังสื่อความหมายถึงความรัก

ในตอนที่คิดเรื่องครั้งแรกก็ไม่ได้ตั้งใจหรือตั้งโจทย์ไว้ว่า จะต้องมาเขียนบทหนังผีดราม่า แต่พอเริ่มทำโครงสร้างของบท อารมณ์หนังชีวิตมันก็ออกมาเองตามครรลองของเรื่องราว เราก็ปล่อยให้เรื่องราวและตัวละครมันไหลออกมา โดยที่ไม่ได้ตั้งใจที่จะบีบคั้นหรือกะเกณฑ์มันมากนัก อยากให้เรื่องราวและหนังมันได้ปลดปล่อยตัวเอง และเปิดเผยเรื่องราวด้วยตัวขอมันเองมากกว่า “ความรัก” เป็นศูนย์กลางของเรื่องราวที่เกี่ยวโยงกับความยึดติดของตัวละคร ทำให้ทั้งคู่ไม่อาจจะก้าวไปไหนต่อได้เลย ได้แต่ติดอยู่ในวังวนของเรื่องราวเดิมๆ ความรักความหลังเดิมๆ เราจึงได้เห็นตัวละครวนเวียนอยู่แต่ที่เก่าๆ บรรยากาศเก่าๆ และเห็นโลกภายนอกน้อยมาก เรามี Establish shot น้อยมากในหนังเรื่องนี้ นอกจากกิจวัตรประจำวันของตัวละครเอก

PROFILE: ศิวาภรณ์ พงษ์สุวรรณ (SIWAPORN PONGSUWAN)
Producer & Director
ศิวาภรณ์ เริ่มต้นการทำงานในฐานะคนทำหนังสือเกี่ยวกับภาพยนตร์ ผ่านการทำงานในส่วนของนักวิจารณ์ภาพยนตร์ เขียนบทความภาพยนตร์ให้กับนิตยสารซีนีแม็ก, สารคดี และนิตยสาร art 4D เป็นต้น เริ่มงานเขียนบท ภาพยนตร์ในปีพ.ศ. 2538 ด้วยเรื่อง “โลกทั้งใบ…ให้นายคนเดียว” ให้กับอาร์เอสฟิล์ม และเริ่มทำงานภาพยนตร์เต็มตัวตั้งแต่เรื่อง สยิว, เฟค, ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ให้กับบริษัทบาแรมยู / สหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนล และก่อตั้งบริษัทโอซีเนม่า จำกัด (Eau Cinema) ในปีพ.ศ. 2551

PRODUCER ‘S PROFILE (selected works)
1995 ร่วมทีมเขียนบทภาพยนตร์เรื่อง “โลกทั้งใบ…ให้นายคนเดียว” บริษัทอาร์เอส ฟิล์ม : รางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม สมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ
1995 – 2001 นักเขียน / นักวิจารณ์ภาพยนตร์ / กองบรรณาธิการประจำนิตยสารซีเนแม็ก
2001 – 2004 เขียนวิจารณ์ภาพยนตร์ที่นิตยสารสารคดี, art4d
2001 ก่อตั้งเวบไซต์เกี่ยวกับภาพยนตร์ไทย www.bangkokcinema.com
2002 บรรณาธิการนิตยสาร JUMPCUT นิตยสารภาพยนตร์ฉบับแรกที่แจกตัวอย่างภาพยนตร์และบทสัมภาษณ์ ผู้กำกับภาพยนตร์ในรูปแบบซีดี
2003 โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์เรื่อง “สยิว”, “Fake…โกหกทั้งเพ”
2004 โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์เรื่อง “เอ็กซ์แมน…แฟนพันธุ์เอ็กซ์”
2005 โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์เรื่อง “เฉิ่ม”, โปรเจ็กต์ภาพยนตร์เรื่อง “เฉิ่ม” ได้รับคัดเลือกจากเทศกาลภาพยนตร์ Festival of 3 Continents ให้เป็น 1 ใน 7 โปรเจ็กต์จาก เอเชีย แอฟริกา และอเมริกาใต้ เพื่อเข้าร่วมอบรมในโปรแกรม Produire au Sud (ซึ่งเป็นสัมมนาสำหรับโปรดิวเซอร์หน้าใหม่), เมืองนองต์ ประเทศฝรั่งเศส ปี 2003
2005 หัวหน้าทีมแคสติ้งฝ่ายไทยให้กับภาพยนตร์ทุนสร้างสูงสุดของเกาหลีปี 2006 เรื่อง Typhoon กำกับโดย เค.ที. คว็อก
2006 เขียนบทภาพยนตร์และกำกับภาพยนตร์เรื่อง “ข้าวเหนียวหมูปิ้ง”
2007 เขียนบทภาพยนตร์และเป็นโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์เรื่อง “อสุจ๊าก” The Sperm
2008 โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์เรื่อง “Snow” (development) กำกับโดย คงเดช จาตุรันต์รัศมี โปรเจ็กต์ภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมตลาดโปรเจ็กต์ภาพยนตร์ PUSAN PROMOTIONAL PLAN (PPP) ที่เทศกาลหนังปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ และ ตลาดหนัง TOKYO PROJECT GATHERING (TPG) ที่เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
2009 โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์โฆษณากระทิงแดง ชุด “Fireball”
2009 กำกับภาพยนตร์โฆษณาของ ยูนิเซฟ ชุด “Love starts” และ “I want” ให้ประเทศกัมพูชา
2010 โปรดิวซ์ภาพยนตร์เรื่อง “ฝัง” ให้กับทรูวิชั่นส์ นำแสดงโดย ลีโอ พุฒิ, เผ่าพล เทพหัสดิน ณ อยุธยา (ต้า บาร์บี้), พลอย จินดาโชติ
2010 กำกับและโปรดิวซ์ภาพยนตร์สำหรับโทรทัศน์ (หนังดังสุดสัปดาห์ทางช่อง 3) เรื่อง “เซียมซีป่วนรัก” นำแสดงโดย ณัฐฐาวีรนุช ทองมี (วีเจจ๋า), ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์, ธัญญ์วารินทร์ สุขะพิศิษฐ์
2011 โปรดิวซ์ภาพยนตร์สั้นเรื่อง “ว่ายน้ำข้ามทะเลดาว” นำแสดงโดย ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี, โทนี่ รากแก่น กำกับโดย ก้องเกียรติ โขมสิริ
2011 กำกับภาพยนตร์โฆษณาคอมพิวเตอร์ Dell ออกอากาศในประเทศกัมพูชา
2012 โปรดิวซ์ภาพยนตร์เรื่อง “รักขมๆในร้านขนมหวาน” ให้กับทรูวิชั่นส์ นำแสดงโดย เป้ อารักษ์ อมรศุภสิริ, นุช นีรนาท โคทส์
2013 กำกับภาพยนตร์โฆษณา Snow Yogurt ออกอากาศในประเทศกัมพูชา ออกแบบเมนูอาหารและเป็น food stylist ให้กับผลิตภัณฑ์ Snow Yogurt
2013 โปรดิวซ์ภาพยนตร์เรื่อง “The Flood นทีชีวิต” ให้กับทางทรูวิชั่นส์ นำแสดงโดย ลีโอพุฒิ, ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ, อาไท กลมกิ๊ก
2013 โปรดิวซ์ภาพยนตร์เรื่อง FANTASY FRIEND กำกับโดย ศุภรัฐ บุญมาแย้ม นำแสดงโดย ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ (อยู่ระหว่างเตรียมงานสร้าง) ให้กับบริษัทเอ็มสตูดิโอ บริษัทในเครือโรงภาพยนตร์เมเจอร์
2014 หนึ่งในคณะกรรมการตัดสินรางวัลคมชัดลึกอวอร์ด สาขาภาพยนตร์ ตั้งแต่ปี 2006-2014
2014 เขียนบทภาพยนตร์ กำกับ และโปรดิวซ์ ภาพยนตร์เรื่อง บองสรันโอน นำแสดงโดย เร แม็กโดนัลด์ เข้าโปรแกรมฉายต้นปี 2015

PRODUCTION DESIGNER : ศุภรัฐ บุญมาแย้ม
ไอเดียการออกแบบฉาก
ด้วยความที่ผมเรียนจบมาทางด้านออกแบบ กราฟิกดีไซน์ ซึ่งตรงกับคาแรคเตอร์ตัวละครของดล ที่มีอาชีพเป็นกราฟิกดีไซน์เนอร์ จึงค่อนข้างที่จะใกล้ตัว จากสภาพความเป็นจริงของกราฟิกดีไซเนอร์ไทย พวกเพื่อนๆพี่ๆที่ผมรู้จัก ภาพจากชีวิตจริงเหล่านี้ คือวัตถุดิบชั้นดีในการออกแบบงานสร้างของภาพยนตร์เรื่องนี้ เราสามารถสร้างฉากต่างๆที่ดูลึกซึ้งมีความรู้สึก มีชีวิตในภาพยนตร์ บวกกับได้คุยกับพี่เปิ้ล ผู้กำกับฯ ที่ต้องการได้งานแบบ Minimal ของน้อยชิ้นแต่ใช่ ทำให้ทุกอย่างออกมาลงตัวอย่างที่เห็นในภาพยนตร์ “บองสรันโอน”

ไอเดียเกี่ยวกับฉากหลัก
ฉากและดีไซน์ต่างๆ ในภาพยนตร์ “บองสรันโอน” เช่น ออฟฟิศ ห้องพัก ฯลฯ ฉากต่างๆ ล้วนแล้วออกมาจาก คาแรคเตอร์ตัวละครต่างๆ และความต้องการของผู้กำกับฯ ที่สอดคล้องกับสถานที่ ( Location ) ที่ต้องออกมาน้อยแต่ดูลึกลับ น่าค้นหา มีวิญญาณซ่อนอยู่ทุกที่ของฉากนั้นๆ เช่น ห้องของพระเอก ดลเป็นคนเนี้ยบ เก็บตัว อยู่กับตัวเอง ติดอยู่กับอดีต คนรักเก่า ซึ่งถึงแม้ว่าดลจะเป็นกราฟิกดีไซน์เนอร์ที่อาชีพต้องทำงานตามเทรนด์ แต่ดลก็เลือกที่จะไม่ตามเทรนด์ ขอหยุดอยู่แค่เสื้อเชิ๊ตเนี้ยบๆ และสีที่ลงตัวกับเค้า ห้องของดลจึงถูกออกแบบมาอย่างเรียบง่าย ดูน้อยๆ นิ่งๆ มีเก๋บ้างแต่ถึงกับไม่ทันสมัยจ๋า คือ อาจจะชิคบ้างๆ

การใช้สีในแต่ละฉากนั้น…ห้องของดล ด้วยความที่ดลเป็นคนเนี้ยบๆ เรียบๆ ลืมความรักครั้งเก่าไม่ได้ ถึงเค้าจะอยู่คนเดียวก็อยากให้รู้สึกว่ามีใครอยู่ข้างๆ จึงเลือกสีครีมเอิร์ธโทน ( earth tone ) สร้างบรรยากาศโรแมนติกให้ตัวละคร ในส่วนออฟฟิศของดล ด้วยความที่เป็นหนังผี แต่ตัวละครมีอาชีพเป็นกราฟิกดีไซน์เนอร์ ทุกอย่างในออฟฟิศจึงใช้พื้นที่ว่าง มืด โดยทาสีทั้งหมดให้เป็นสีน้ำตาลเข้มพอสะท้อนกับไฟที่จัดเพียงเล็กน้อยจะทำให้ดูเหมือนมีบางสิ่งอยู่รอบๆดล มีมวลอยู่ในผนัง แม้เวลาไม่มีฉากที่ผีอยู่ แต่มันก็แสดงความน่ากลัว ความวังเวงให้ออกมาได้

DIRECTOR OF PHOTOGRAPHY ผู้กำกับภาพ : พีระพันธ์ เหล่ายนตร์
ผลงานที่ผ่านมา
– ผู้กำกับภาพยนตร์ – นายอโศกและนางสาวเพลินจิต, สวยลากไส้
– ผู้กำกับภาพ – บางระจัน 2, สามชุก, ปัญญาเรณู1, 2, รูปูรูปี, สามวันสองคืน, ร่าง, the Game of Hide and Seek, Who Am I ? ใครอยู่ในห้อง?, บองสรันโอน

ไอเดียในการถ่ายทำในแง่ของการตีความบท
หนังเรื่องนี้มีความยากอยู่ประมาณหนึ่ง เนื่องจากหนังเล่าเรื่องพร้อมกันอยู่สามช่วงเวลาและอยู่ในสถานที่เดียวกัน คือ อดีตของพระเอก ปัจจุบันของพระเอก และช่วงเวลาระหว่างนั้น ก็ต้องมีการตกลงกับ พี่เปิ้ล ผู้กำกับฯว่าจะแบ่งแยกกันชัดเจนแค่ไหน จะผสมกันอย่างไร ให้คนดูเข้าใจ ในขณะเดียวกันก็ยังเก็บปมมืดลึกดำไว้ให้น่าค้นหาติดตามไปจนจบเรื่อง แต่ในขณะเดียวกันทางด้านภาพต้องแสดงถึงอารมณ์ของตัวละครได้เต็มที่ ฉะนั้นตอนถ่ายแต่ละช็อตก็จะต้องคุยเช็คกันเสมอว่า อันนี้เล่าชัดเจนไหม ช็อตจะไปต่อกันยังไง จะเล่าในจังหวะและอารมณ์แบบไหน

การตั้งโจทย์ที่แตกต่างกันในการถ่ายหนังแต่ละเรื่อง
แน่นอนในการถ่ายหนังแต่ละเรื่องมันมีโจทย์ที่ต่างกันอยู่แล้ว มีอารมณ์ มีสภาพแวดล้อมแตกต่างกัน มันไม่มีทางที่จะเล่าเรื่องหรือใช้ภาพแบบเดียวกันได้ อย่างในเรื่อง “บองสรันโอน” นี้ เป็นการเล่าเรื่องในโลกที่ปิด เล่าตัวละครตัวหนี่งอยู่ในโลกของตัวเอง ใช้ชีวิตอยู่กับอะไรก็ไม่รู้ ฉะนั้นทางภาพก็เลยต้องสร้างสไตล์ออกมาให้คนดูรับรู้ถึงสิ่งภายนอกได้น้อยที่สุด โลกทั้งโลกเป็นของนายดลคนนี้คนเดียว แสงที่เกิดในห้องก็รับจากภายนอกเพียงน้อยนิด ที่ออฟฟิศที่พบปะคนอื่นก็จะเป็นแสงที่สลัวคลุมเครือไม่ชัดเจน พอออกไปตามหาความจริงในประเทศกัมพูชา ก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง และด้วยความเป็นคนที่เรียบแต่ไม่ง่าย เฟรมของภาพก็จะเรียบ แต่ก็แฝงความประดิษฐ์ประดอยไว้ มีการเล่าเรื่องผ่านสิ่งของของดลบ้าง แต่ก็ไม่เล่าสิ่งอื่นที่นอกเหนือจากโลกของเขา มันแตกต่างจากงานเก่าๆ ของผมมาก อย่างซีรีส์ “ปัญญาเรณู” , “รูปูรูปี” ที่ต้องเล่าบรรยากาศทั้งโลก สภาพแวดล้อมที่เด็กๆเจอ อารมณ์ของผู้คน ต่างกับ “ยังบาว” ที่ต้องเล่าพร้อมกันทั้งหมู่มวล ฉะนั้นมันจึงแตกต่างกันไปในแต่ละเรื่อง อีกทั้งเรื่องนี้ยังได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยทำด้วย เช่นการใช้แสงที่กึ่งประดิษฐ์กึ่งธรรมชาติ การวางเฟรมตามคาแรคเตอร์ของตัวละครที่เป็นกราฟิกดีไซน์เนอร์ จึงเป็นอะไรที่สนุก ให้ทำอยู่มากสำหรับเรื่องนี้

เทคนิคในการถ่ายทำ การออกแบบโทนสีใน “บองสรันโอน”
ทางด้านภาพ เรื่องการเคลื่อนกล้องสวิงสวายคงไม่มีมาก เราตกลงกันไว้ตั้งแต่ต้นว่า จะตั้งกล้องนิ่งๆ ใช้ช็อตน้อยที่สุดในการเล่าเรื่อง แต่จะใช้คอมโพสในการวางตำแหน่งสิ่งต่างๆ เป็นเทคนิคในการเล่าเรื่อง ในความนิ่งก็มีอะไรที่ซ่อนอยู่ในนั้น การวางเฟรมมีการวางแบบสมมาตรบ้าง วางตามไลฟ์ไสตล์ของตัวละครบ้าง ส่วนทางด้านแสง ทาง พี่เปิ้ล ผู้กำกับฯ ให้โจทย์มาว่า อยากใช้แสงจากหลอดฟลูออเรสเซนต์ เราก็คิดว่ามันน่าจะทำอะไรแตกต่างจากที่หนังฮ่องกงใช้ไปแล้วบ้าง เลยมีการทดลองกับหลอดไฟแบบต่างๆ ยี่ห้อต่างๆ เพราะหลอดไฟชนิดเดียวกัน แต่ต่างยี่ห้อก็ให้สีที่ออกมาต่างกัน แล้วเมื่อเราเล่นกับอุณหภูมิแสงด้วย ก็ได้ทางแสงและสีสันที่แปลกตาออกไป ทำให้เกิดอารมณ์ลึกลับ ช่วยส่งเสริมอารมณ์หนังได้อย่างมาก หลังจากที่ได้ทดสอบแล้ว ก็ได้โทนสีหลักๆ อยู่สองโทน โทนหนึ่งใช้ที่บ้าน มันจะออกเขียวแต่ก็ต่างกับที่เขาเคยใช้กัน เพราะเราใช้ให้ความรู้สึกเขียวอึมครึมในฉากกลางวัน แต่จะเพิ่มความอบอุ่นออกแดงในตอนกลางคืน ส่วนอีกโทนเราใช้กับส่วนออฟฟิศของดล ที่จะออกแดงตัดกับสีดำของออฟฟิศที่ฝ่ายโปรดักชั่นดีไซน์เขาทำไว้ ทั้งหมดก็เพื่อสร้างโลกของความฉงนในทั้งสองด้านในชีวิตของตัวละครที่ชื่อดล ส่วนในเรื่องผี การที่คอนเซปต์ของเราคือการตั้งกล้องนิ่งเคลื่อนน้อย จังหวะของผีต่างๆ จึงเกิดจากการคอมโพส หรือไม่ก็ใช้การเคลื่อนตัวของตัวละครเป็นเทคนิคในการสร้างช็อตน่ากลัวต่างๆ ภายในหนัง ทำให้เกิดสไตล์เฉพาะสำหรับหนังเรื่องนี้ได้

สิ่งที่ชอบที่สุดสำหรับการถ่ายในเรื่องนี้
สิ่งที่รู้สึกได้ในการเป็นตากล้องก็คือ การที่ได้ถ่ายอะไรสวยๆงามๆ มันก็ทำให้ถ่ายให้สวยงามได้ไม่ยาก อย่างตอนถ่าย “ยังบาว” มีแต่คนเท่ห์ๆ ถ่ายยังไงก็ดูดี หนังเรื่องนี้ก็ได้ถ่ายพี่เร มีน(สรัลธร คล้ายอุดม) และก็สักขณา ล้วนแต่หน้าตาดีและขึ้นกล้องเป็นที่สุด และยิ่งถ้าเราถ่ายและเกาะติดไปกับอารมณ์ของตัวแสดง แล้วปล่อยอารมณ์ไปตามนักแสดง ทำให้ได้ภาพที่ได้อารมณ์ได้ไม่ยาก ยิ่งเรื่องนี้พี่เรเขาพลิกบทบาท เป็นผู้ชายที่นิ่งสุขุม ทางภาพเราก็ต้องวางแบบสุขุม ต่างก็ส่งเสริมซึ่งกันและกันระหว่างเรื่องภาพกับการแสดง จึงทำให้เรื่องนี้ทำงานได้อย่างสนุก แค่ปล่อยอารมณ์ไปกับมัน น้องมีนก็มีความตั้งใจสูง ส่วนสักขณาก็มีความเป็นมืออาชีพสูง การขยับตัว การแสดง ทำให้ถ่ายภาพออกมาได้ตามอารมณ์ที่ดีและถูกต้อง สักขณาเป็นคนอารมณ์ดี ออกไปทางก๋ากั่น ทำให้ทำงานได้อย่างสนุกสนานมาก อีกทั้งร้านสุกี้ของเธอที่พนมเปญอร่อยมากๆ

CAST
เร แม๊คโดแนลด์ รับบท “ดล”
กราฟิกดีไซเนอร์หนุ่ม บุคลิกนิ่งๆ เงียบขรึม พูดน้อย ดลจมอยู่กับความรักเก่าและคนรักเก่า เขาไม่เคยเผื่อใจให้กับใครอื่น แม้จะมีสาวๆมาสนใจเขามากมาย กระทั่งวันหนึ่งผู้หญิงที่เข้ามาในชีวิตเขามีอันเป็นไป ดลจึงชักไม่แน่ใจในพื้นที่ของตัวเองว่า นอกจากเขาแล้วยังมีใครอื่นอีกหรือไม่ ที่อยู่ในห้องเดียวกัน

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งบทบาทที่ไม่ค่อยเห็นบ่อยนัก สำหรับนักแสดงที่ขึ้นชื่อเรื่องความเซอร์ อย่างเร แม๊คโดแนลด์ ถึงแม้ระยะหลังมานี่เราจะได้เห็นเขาบ่อยในหนังแนวสยองขวัญหลายๆ เรื่อง แต่สำหรับ “บองสรันโอน” เขายืนยันว่า เป็นอีกหนึ่งบทบาทที่พิสูจน์ความสามารถด้านการแสดงเลยทีเดียว
“ด้วยความที่บทของดล เป็นผู้ชายที่ค่อนข้างเงียบๆ ยึดติดอยู่กับความรักที่จากไปนานแล้ว การรับเป็นดล จึงต้องเป็นอะไรที่เล่นน้อยๆ เล่นนิ่งๆ เน้นถ่ายทอดอารมณ์ให้ออกมาทางสายตาเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งค่อนข้างท้าทายมากในฐานะนักแสดง เพราะดล จะมีวิธีพูด วิธีเดิน และวิธีคิด ที่ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิงกับตัวตนของผมเลย ก็ต้องใช้ระยะเวลาในการปรับตัวอยู่เหมือนกัน ก็หวังว่าจะสามารถเล่นเป็นดล ได้สมบทบาท และตรงใจผู้กำกับนะครับ แถมเรายังได้ดาราระดับแถวหน้าของประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านของเรา มาร่วมแสดงแล้วด้วย รับรองว่าอรรถรสของความตื่นเต้น ชวนค้นหา เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนครับ”

ผลงานที่ผ่านมา
รายการทีวี : พิธีกรรายการทีนทอล์ก, พิธีกรรายการ 72 ชม, พิธีกรรายการลูกครึ่งหลงทาง, วีซ่า, โรมมิ่ง, รายการ 48 ชม., รายการ 72 ชม.
ภาพยนตร์ : ฝันบ้าคาราโอเกะ, เฟค โกหกทั้งเพ, six หกตายท้าตาย, the eyes 10, นาคปรก, โอปปาติก, ตามหากาลิเลโอ, ตีสาม (ตอนโอที), ตีสามคืนสอง, โอที ผีโอเวอร์ ไทม์

ซาราย สักขณา รับบท “เวือน”
หญิงสาวชาวกัมพูชาที่ติดตามแฟนหนุ่มชาวไทยกลับมากรุงเทพ เวือนเป็นคนยึดมั่นในความรัก เธอฝันถึงความรักที่สวยงามและชีวิตที่ดีขึ้น แต่แล้วกลับพบเพียงความว่างเปล่า เวือนยังคงรอคอยการกลับมาของแฟนหนุ่มอยู่ในห้องเดิม

ซาราย สักขณา นักแสดงระดับแถวหน้าของประเทศกัมพูชา เธอเข้าวงการมาด้วยการประกวดเฟรชชี่ เกิร์ล (Freshie girls) ของประเทศกัมพูชา ด้วยหน้าตาและความสามารถ จึงไปเข้าตาผู้กำกับ จนมีโอกาสได้เล่นเอ็มวีเพลง และภาพยนตร์ ซึ่งปัจจุบันเธอเล่นหนังมาแล้วกว่า 30 เรื่อง ยังไม่รวมละครโทรทัศน์ และรายการต่างๆ ซึ่งภาพยนตร์ที่ทำให้เธอโด่งดัง และเป็นที่รู้จักอย่างมาก คือ ภาพยนตร์เรื่อง Vanished (2008) ของค่าย Khmer Mekong Film ในกัมพูชา และละครเรื่อง Impostors ซึ่งเธอแสดงเป็นสองคาแรคเตอร์ คือเป็นฝาแฝดที่คนหนึ่งเป็นคนดี อีกคนเป็นคนไม่ดี สักขณามักจะเลือกเล่นบทบาทที่ท้าทาย และยากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเธอมีชื่อเสียงมากในการแสดงบทบาทในภาพยนตร์แนวสยองขวัญ และภาพยนตร์แนวคอมเมดี้ และสำหรับการร่วมแสดงในภาพยนตร์ไทยเรื่อง บองสรันโอน ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานที่เธอภูมิใจมาก

“ปกติฉันได้มาเมืองไทยบ่อยอยู่แล้ว มาเที่ยวบ้าง มาเดินแบบบ้าง ซึ่งเป็นประเทศหนึ่งที่ฉันประทับใจมาก ประทับใจที่ผู้คนใจดี ให้ความเคารพต่อกัน และที่สำคัญคือ อาหารไทยอร่อยมาก กลับไปแต่ละครั้งน้ำหนักถึงกับเพิ่มขึ้นมาหลายกิโลเลย (หัวเราะ) และยิ่งรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เมื่อมีโอกาสได้ร่วมงานกับทีมผู้สร้างภาพยนตร์ไทย ซึ่งได้รับบท “เวือน” ในภาพยนตร์เรื่อง “บองสรันโอน”

สำหรับ “เวือน” เป็นบทบาทของหญิงสาวเรียบร้อยคนหนึ่ง ที่มาอาศัยอยู่ต่างบ้านต่างเมือง และมีบุคลิกที่แฝงไว้ด้วยความเศร้า เหงา และน่ากลัวอยู่ในนั้นด้วย ซึ่งเป็นบทที่ฉันไม่เคยแสดงมาก่อน และแปลกจากหนังเรื่องอื่นๆ ที่ฉันเคยแสดง บวกกับส่วนตัวชอบหนังแนวนี้อยู่แล้ว เลยเป็นเหตุผลให้ตกลงใจทันทีที่ได้พูดคุยกับ ผู้กำกับฯ พี่เปิ้ล ศิวาภรณ์ และอีกหนึ่งอย่างที่ดีใจมากๆ ที่รู้ว่าได้ร่วมงานกับพี่เร ซึ่งเป็นนักแสดงไทยที่เราชื่นชอบ และมีโอกาสติดตามผลงานมาในหลายๆ เรื่อง ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับฉันที่ได้มาร่วมแสดงในหนังไทยเรื่องนี้ เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างนักแสดงจากสองประเทศ จึงอยากขอฝากให้ผู้ชมชาวไทยได้ติดตามชมภาพยนตร์เรื่อง “บองสรันโอน” กันเยอะๆนะคะ”

ผลงานที่ผ่านมา
ภาพยนตร์ : Vanished (2008), Have you ever loved me และภาพยนตร์อื่นๆ อีกกว่า 30 เรื่อง รวมถึงผลงานการแสดงเอ็มวี และผลงานการถ่ายภาพกับช่างภาพระดับอินเตอร์
ละคร: Impostors

สรัลธร คล้ายอุดม (มีน) รับบท “เจ็ม”
สาวน้อยเพิ่งเรียนจบมาหมาดๆ ได้มาทำงานที่ออฟฟิศเดียวกับดล ผ่านการแนะนำของรุ่นพี่ เจ็มนั้นมีความประทับใจในตัวดลมานาน เพราะเคยได้ยินชื่อเสียงและผลงานของดลมาก่อนตั้งแต่สมัยเรียน เธอนับถือเป็น Idol ของอาชีพการงาน จนเมื่อได้มาพบกับตัวจริงของดล เจ็มก็ยิ่งปลื้มมากเข้าไปใหญ่ เมื่อพบว่าพอมาทำงานที่นี่ idol สมัยเรียนของเธอกลายเป็นพี่เลี้ยงในการทำงาน แต่ทว่า เจ็ม ไม่เคยรู้มาก่อนว่า ดลนั้นมี “คนอื่น” อยู่ก่อนแล้ว
สรัลธร คล้ายอุดม สาวน้อยหน้าใสที่กำลังเติบโตในวงการ ก้าวแรกในเส้นทางบันเทิงเริ่มด้วยการถ่ายแบบนิตยสารวัยรุ่น ต่อจากนั้นก็มีผลงานถ่ายมิวสิควิดีโอมากมาย และได้เคยร่วมเล่นภาพยนตร์ละครอยู่หลายเรื่องแต่เห็นจะเป็นที่รู้จักอย่างมากก็คือ ผลงานภาพยนตร์เรื่อง Yes or No 2 รักไม่รัก อย่ากั๊กเลย และล่าสุดยังได้ขึ้นแท่นนางเอกหน้าใหม่ในเรื่อง “มนต์เจตภูต” ของทางช่องทรูโฟร์ยูอีกด้วย

“ในเรื่อง รับบทเป็นเจ็ม สาวกราฟิกดีไซเนอร์ที่ได้เข้ามาทำงานที่ออฟฟิศเดียวกับพี่ดล คือเคยเป็นรุ่นน้องตั้งแต่สมัยเรียน แอบปลื้มและติดตามผลงานของพี่ดลมาตลอด ได้มาทำงานที่เดียวกันแถมมีพี่ดลมาเป็นพี่เลี้ยงในการทำงานใหม่ อารมณ์เหมือนเคยชอบมากๆแล้วพอมาอยู่ใกล้ยิ่งทำให้ชอบพี่เขาไปอีก พยายามจะชวนคุยถามเรื่องาน เพราะปกติพี่ดลเป็นคนเงียบๆ ในบทเจ็มก็จะคอยชวนดลพูดคุยอยู่ตลอด การทำงานกับพี่เปิ้ล ผู้กำกับฯ สนุก พอได้บทมาก็ให้เราลองเล่นดูก่อนว่าเป็นยังไง พอมีอะไรเพิ่มเติมตรงนั้นตรงนี้นิดหน่อย พี่เปิ้ลก็จะคอยบอก ทำให้ไม่ยากมาก ได้เล่นกับพี่เร แรกๆก็เกร็งๆเหมือนกัน เคยเห็นผลงานพี่เขามาเยอะ แต่พอได้ทำงานด้วยจริงๆแล้วไม่เกร็งเลย พี่เรน่ารัก เป็นกันเองมาก ส่วนซาราย สักขณาเป็นคนน่ารัก สวยหวานสวยคมไม่แพ้คนไทยเลย เราสื่อสารกัน เธอก็ใช้ภาษาอังกฤษ ชอบเล่นอะไรตลกๆให้เราดู แถมยังร้องเพลงเพราะมากอีกด้วย คนอื่นๆในกองอย่างพี่โจ๊ก พี่แม๊กกี้ก็เฮฮา สนุกสนาน ร่วมงานแล้วสบายใจ พูดถึง “บองสรันโอน” พอได้ยินครั้งแรกเราก็งงๆ ว่าภาษาอะไร พอรู้ความหมายที่แปลว่า พี่รักน้อง แล้วอ่านบทก็เข้าใจ ฝากติดตามภาพยนตร์เรื่อง บองสรันโอนด้วย ออกแนวแบบลี้ลับ มีอะไรที่ชวนให้ติดตามและสงสัยตลอด ทำให้คนดูคาดไม่ถึง แล้วมาร่วมหาคำตอบไปด้วยกันนะคะ”

ผลงานที่ผ่านมา
ภาพยนตร์ : Yes or no2 รักไม่รัก อย่ากั๊กเลย, ผีเข้าผีออก
ละคร : หนังดังสุดสัปดาห์ ใครฆ่าสาวฮ็อต, ซีรีส์ จุดนัดภพ, แผนร้ายพ่ายรัก, นางร้ายซัมเมอร์, ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล, นางสาวทองสร้อย และ มนต์เจตภูต

ดี เสวต รับบท “แม่ของเวือน
“แม่” ของ เวือน อาศัยอยู่ในบ้านนอก เมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เธอมีลูกสาวเพียงเพียงคนเดียว และออกจากบ้านไปโดยไม่ติดต่อกลับมาเป็นเวลานาน ด้วยหัวอกของความเป็นแม่ ยังคงรอคอยอย่างมีความหวังว่าสักวันหนึ่งลูกจะกลับมา

ดี เสวต ดาวค้างฟ้าแห่งวงการบันเทิงกัมพูชา และเป็นนักแสดงที่เป็นที่ยอมรับในระดับโลก ปัจจุบันเธอยังคงได้รับเชิญให้ไปปรากฏตัวในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ ทั้งในยุโรปและเอเชีย เธอโด่งดังจากภาพยนตร์เรื่อง งูเก็งกอง ซึ่งทำรายได้สูงสุดในอดีต และยังเป็นภาพยนตร์ยอดนิยมของกัมพูชาที่ชาวต่างชาติรู้จักกันดีตราบจนถึงปัจจุบัน

ผลงานภาพยนตร์
The Last Reel, เก็งกอง, บัวขาวน้อย, งูเก็งกอง ภาค 2, I Am Super Student, KeoPnakeSomnop Jet, The Crocodile, AttBey (3 Ace), NeakMdai, Crocodile Men, Tngai Lich OunSronoh, Blood Boxing Girl เป็นต้น”

อัครินทร์ อัครนิธิเมธรัฐ (โจ๊ก โกลคลับฯ) รับบท “เมือง”
“เมือง” หนุ่มเซอร์ประจำออฟฟิศ เป็นรุ่นน้องที่เป็นเพื่อนสนิทของดล ซึ่งเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องจากมหาวิทยาลัย และได้มาทำงานในออฟฟิศกราฟิกดีไซน์แห่งนี้ด้วยกัน เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งนักแสดงที่ขึ้นชื่อเรื่องเซอร์ พอๆ กับหนุ่มเร และนับว่านี่เป็นการร่วมงานครั้งแรกของสองหนุ่มเลยก็ว่าได้
“เรื่องนี้ผมรับบทเป็น “เมือง” ครับ เป็นคนที่ทำงานออฟฟิศเดียวกับ ดล ซึ่งก็คือ พี่เร เป็นครั้งแรกที่ได้แสดงหนังกับพี่เร ซึ่งดูเหมือนเราจะสวนกันไปสวนกันหลายครั้งมาก ซึ่งพอมาร่วมกันจริง สนุกเลย ซึ่งผมว่าใครที่ชื่นชอบพี่เรอยู่ก่อนหน้านี้ จะรู้สึกชอบในอีกบุคลิกหนึ่งของเขาจากหนังเรื่องนี้แน่ๆ บวกกับเรามีนักแสดงจากฝั่งเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชามาร่วมแสดงด้วย ก็ยิ่งทำให้หนังดูมีมิติ ชวนค้นหามากขึ้นครับ”

ผลงานที่ผ่านมา
ภาพยนตร์ : Goal Club โกลคลับ เกมล้มโต๊ะ, พรางชมพู, คลับซ่าห์ ปิดตำราแสบ, เอ็กซ์แมน แฟนพันธุ์เอ็กซ์, คน/ผี /ปีศาจ, อหิงสา จิ๊กโก๋มีกรรม, โรงเตี๊ยม, โหดหน้าเหี่ยว 966, หลุดสี่หลุด, ฝนตกขึ้นฟ้า, มึงกู, เพื่อนกันจนวันตาย, วงจรปิด, สีเรียงเซียนโต๊ด
ละคร : คุณแม่เฉพาะหน้า คุณย่าเฉพาะกิจ (ช่อง 7), หลานสาวนิรนาม (ช่อง 7), ตี๋ใหญ่

ศุทธสิทธิ์ พจน์ศักดิ์ (แม็กกี้) รับบท เม้ง
“เม้ง” เป็นพนักงานออฟฟิศเดียวกันกับดล เป็นเพื่อนรุ่นน้องที่จบมาจากที่เดียวกัน เม้งเป็นตัวแสบประจำออฟฟิศ ชอบแซวใครต่อใครในออฟฟิศเสมอ และเป็นคนแรกในออฟฟิศที่มองออกว่า เจ็มมีใจให้กับดล

“แม็กกี้ ศุทธสิทธิ์” ผ่านผลงานบันเทิงมาแล้วทั้ง ในฐานะผู้กำกับ โปรดิวเซอร์ และนักแสดง เรียกได้ว่าคร่ำหวอดทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลัง ทำให้แม็กกี้เข้าใจการทำงาน และเข้าถึงบทบาทได้ดี ขนาดที่เร แม๊คโดแนลด์ ยกให้เป็นมืออาชีพคนหนึ่งของวงการ ซึ่งแม็กกี้เคยร่วมงานกับเร มาแล้วในภาพยนตร์หลายเรื่อง ทั้งโอที 2 ตีสามคืนสาม ถึงขนาดที่ว่าเร ยกให้เป็นคู่จิ้นกันเลย

“รับบทเป็น เม้งครับ เม้งเป็นพนักงานในออฟฟิศที่เป็นรุ่นน้องพี่ดล (เร) นิสัยกวนตีน พูดจาฉะฉาน ตรงไปตรงมา เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแรกที่ร่วมงานกับพี่เร พี่ตั้ม โปรดิวเซอร์โทรมาว่า มีหนังให้เล่น เล่นกับพี่เร ผมก็เล่นเลย ผมชอบ สนุก เวลาเล่นกับพี่เร คือเค้าดูมีพลัง เค้าดูมีความรู้สึกกับสิ่งที่เกิดขึ้น กับเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าจริงๆ ครั้งแรกที่ได้ยินคำว่า บองสรันโอน รู้สึกว่า มันเป็นหนังรักเรื่องหนึ่ง จริงๆ ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะงงๆ ว่า เอ๊ะ มันเป็นหนังชาติไหน เวียดนามหรอ หรือ พม่า อะไรอย่างนี้ครับ แต่ผม เอ่อ เมื่อก่อนอยู่จังหวัดสุรินทร์ อยู่ติดชายแดนเขมร กัมพูชา ก็พอจะทราบความหมายของคำว่า “บองสรันโอน” ตอนแรกคิดว่ามันจะเป็นหนังรักเรื่องนึง แต่พอมารู้จริงๆแล้ว มันไม่ใช่แค่หนังรักธรรมดา มันเป็นหนังรักที่ ที่มีวิญญาณ มีผีเข้ามามีส่วนของความรัก”

ผลงานที่ผ่านมา
ภาพยนตร์ : เฉือน, ว่ายน้ำข้ามทะเลดาว, อันธพาล, ตีสามคืนสอง, โอที ผีโอเวอร์ไทม์ และ ซิตคอม kiss me

ทศพล ศิริวิวัฒน์ รับบท บอสนิด
“บอสนิด” เป็นรุ่นพี่ที่จบมาทางด้านนิเทศศิลป์ สาขากราฟิกดีไซน์ และออกมาเปิดบริษัทกราฟิกดีไซน์เล็กๆ ย่อมๆ โดยรับเอาเพื่อนๆ รุ่นน้อง มาทำงานด้วยกัน เป็นบอสที่ใจดี ง่ายๆ เป็นกันเอง และเข้าใจทุกคน

ทศพล หนึ่งในนักแสดงที่มาร่วมสร้างสีสันให้กับ ภาพยนตร์ “บองสรันโอน” ได้พูดถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า

“กับบทบอสนิดเนี่ยนะครับ ก็เป็นเจ้าของบริษัทกราฟิกดีไซน์ที่คุณดลหรือว่าคุณเรทำงานอยู่ มีนิสัยใจคอ ก็ สบายๆ ครับ เป็นคนรักลูกน้อง เป็นห่วงลูกน้อง สำหรับการทำงานกับ เร แม๊คโดแนลด์ เรเป็นคนที่มีความสามารถ เป็นนักแสดงที่มีลักษณะที่เรียกว่า “เล่นแบบไม่เล่น” ซึ่งเรานี่ก็จะรู้สึก แบบว่าเกร็งนิดหน่อย ในการที่จะเข้าฉากกับเร เราก็เลยจำเป็นที่จะต้องเล่นแบบไม่เล่นเหมือนเรด้วยครับ (หัวเราะ)”

ผลงานที่ผ่านมา
ผู้กำกับภาพยนตร์ : นายอโศกกับนางสาวเพลินจิต, สวยลากไส้, 7 ประจันบาน1, 7 ประจัญบาน 2, หลวงพี่กับผีขนุน
ปัจจุบัน : เป็นผู้บริหาร สถานีเคเบิล ช่องมงคลแชนนอล

ธัญญ์วาริน สุขะพิศิษฐ์ รับบท เจ๊
ผู้จัดการตึกเจ๊ ผู้จัดการตึก สาวสวยโสด เป็นผู้จัดการตึกคอนโดที่ดลพักอาศัยอยู่ เจ๊เพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่นานนัก หลังจากที่ดลเข้ามาพักที่ตึกนี้ แน่นอนที่สุดว่า เจ๊ นั้นแอบชอบดลมานานแล้ว

ผลงานกำกับภาพยนตร์
Insect in the backyard, ฮักนะสารคาม, ปอบหน้าปลวก, ตายโหง และ รด.เขาชนผีที่เขาชนไก่
วรรณวิสา นพวงศ์ ณ อยุธยา(ปุ๋ย) รับบท เดือน

“เดือน” เป็นเออีสาวสวยหนึ่งเดียวในออฟฟิศ และแอบชอบดลมานานแล้ว เมื่อมีโอกาสจะหาวิธีแสดงออกต่อความรู้สึกที่เธอมีต่อดลเสมอ

ปุ๋ย ทำงานเป็นคอสตูมดีไซเนอร์ให้กับภาพยนตร์โฆษณา, มิวสิควีดีโอ และรายการทีวี ก่อนจะมาร่วมสร้างสีสันให้กับภาพยนตร์เรื่อง บองสรันโอน
“รับบทเป็นเดือน เออี.สาว อยู่ในก๊วนเพื่อนร่วมงานของพี่เร เดือนเป็นสาวค่อนข้างก๋ากั่น เป็นผู้หญิงมั่นใจ ขี้เล่น สนุกสนาน แต่ในมุมของสาวเดือนก็มีความเป็นห่วงเป็นใยพี่ดลเป็นพิเศษ เห็นพี่ดลเศร้า ๆ ก็เข้าไปแหย่ไปแกล้ง แต่จริง ๆ แล้วเดือนเป็นห่วงพี่ดล ก็แอบชอบนั่นเอง

บองสรันโอน เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องพักของดล ทำไมดลถึงรู้สึกว่าเขาไม่อยู่คนเดียว มันมีเหตุการณ์ความตายเกิดขึ้นรอบ ตัวของดล อะไรที่ทำให้ดลตามหาคำตอบ และบทสรุปเขาจะเป็นอย่างไร มาร่วมกันค้นหาและติดตามได้ในภาพยนตร์ บองสรันโอน ฝากหนังเขย่าขวัญเรื่องนี้ด้วย หนังมีทั้งเนื้อหาที่ชวนสงสัย ภาพ สีของหนัง เสียงและเทคนิคการถ่ายทำที่รู้สึกสยองขวัญ ทีมงานทุกคนตั้งใจทำงานอย่างหนัก เพื่อให้ออกมาดีที่สุดค่ะ”

ผลงานที่ผ่านมา
ผลงานภาพยนตร์ : ซิงเกิลเลดี้, บองสรันโอน

เครดิตทีมงาน
TRUEVISIONS ORIGINAL PICTURES and CINEPLEX COMPANY LIMITED, Eau Cinema PRESENTS
ทรูวิชั่นส์ ออริจินัล พิกเจอร์ส และ ซีนีเพล็กซ์ คอมปานี ลิมิเต็ด ร่วมกับ โอซีเนม่า เสนอ
อรรถพล ณ บางช้าง
ATTAPHON NA BANGXANG อำนวยการสร้างฝ่ายบริหาร
EXECUTIVE PRODUCER
ศิวาภรณ์ พงษ์สุวรรณ
SIWAPORN PONGSUWAN อำนวยการสร้างฝ่ายบริหาร
EXECUTIVE PRODUCER
โอซีเนม่า
EAU CINEMA CO.,LTD. สร้าง
PRODUCED BY
ศิวาภรณ์ พงษ์สุวรรณ
SIWAPORN PONGSUWAN
ศุภรัฐ บุญมาแย้ม
SUPHARAT BOONMAYAM ควบคุมการผลิต
PRODUCER
สมราศรี ตรีธารทิพย์
SOMRASRI TRETARNTIP
ศศิพรรณ แก้วกาญจน์
SASIPAN KAEWKARN
อัญจนา สิงหเสนี
ANCHANA SINHASENI ดำเนินการสร้าง
ASSOCIATE PRODUCER
ศิวาภรณ์ พงษ์สุวรรณ
SIWAPORN PONGSUWAN บทภาพยนตร์ และ กำกับภาพยนตร์
SCREENPLAY and DIRECTED BY
พีระพันธ์ เหล่ายนตร์
PIRAPHAN LAOYONT กำกับภาพ และ ลำดับภาพ
DIRECTOR OF PHOTOGRAPHY and EDITOR
ศุภรัฐ บุญมาแย้ม
SUPHARAT BOONMAYAM ออกแบบงานสร้าง
PRODUCTION DESIGNER
นคร โฆษิตไพศาล
NAKORN KOSITPAISARN ดนตรีประกอบและออกแบบเสียง
MUSIC SCORE and SOUND DESIGN
พีรพัฒน์ วิมลรังครัตน์
PEERAPHAT WIMONRUNGKARAT ภาพนิ่ง
Stills
คณพศ ธัญธนเจษฎาภา
Khanaphot Thanthanachetsadapha ภาพเบื้องหลัง
BEHIND THE SCENE
ไวท์ไลท์ ดิจิตัลแล็บ
WHITE LIGHT DIGITAL LAB ดิจิตัล แล็บ
DIGITAL LABORATORY
เร แม๊คโดแนลด์
RAY MACDONALD ดล
DON
ซาราย สักขณา
SARAY SAKANA เวือน
VOEN
สรัลธร คล้ายอุดม
SARANTORN KLAIUDOM เจ็ม
GEM
อัครินทร์ อัครนิธิเมธรัฐ
AKARIN AKARANITIMAYTHARATT เมือง
MUANG
ทศพล ศิริวิวัฒน์
THOSPOL SIRIVIVAT บอส
BOSS
ดีเสวต
DY SAVETH แม่ของเวือน
VOEN ’S MOTHER
ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์
TANWARIN SUKKHAPISIT เจ๊ผู้จัดการตึก
MANAGER OF MANSION
วงศ์ตะวัน ชีวิน
WONGTAWAN CHEEWIN ตำรวจ
POLICE
ศุทธสิทธิ์ พจน์ฐศักดิ์
SUTTASITT POTTASAK เม้ง
MENG
วรรณวิสา นพวงศ์ ณ อยุธยา
WANWISA NOPPAWONG NA AYUTHAYA เดือน
DUAN
ในกรม กิจจะวัฒนะ
NAIGROM KIJJAWATANA บันทึกเสียง
SOUND RECORDING
วานิลลาสกาย สตูดิโอ
VANILLA SKY STUDIO มิกซ์เสียง
MIXED SOUND

ทีมประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์เรื่อง บองสรันโอน
เบอร์กลาง 088-757-1535-6

You may also like...