Automata การดิ้นรนของสองเผ่าพันธุ์

คงต้องยํ้ากันอีกสักรอบว่า Automata ไม่ใช่หนังแอ็คชั่นแบบ i robot และที่สำคัญไม่ใช่ภาพยนตร์อลังการงานสร้างจากฮอลลีวู้ด แต่เป็นหนังไซไฟสัญชาติสเปน เพราะหลายคนที่ตีความจากโปสเตอร์กับตัวอย่างหนังแล้ว ส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดเนื้อหาของหนังกล่าวถึงโลกอนาคตที่ชั้นบรรยากาศถูกทำลาย สภาพอากาศเลวร้าย เต็มไปด้วยพื้นที่กัมมันตรังสี มนุษย์โลกจำนวนหนึ่งที่รอดชีวิตต้องอาศัยอยู่ในโซนปลอดภัย พวกเขาจึงสร้างหุ่นยนต์มาใช้ทำงานต่างๆแทน ตั้งแต่งานในโรงงานไปจนถึงงานบ้าน

ฌาค โวแคน (แอนโตนิโอ แบนเดรัส) เจ้าหน้าที่ด้านการประกันสินค้าของบริษัทที่ผลิตหุ่นยนต์อำนวยความสะดวกให้กับมนุษย­์ ได้รับการร้องเรียนถึงความผิดปกติของสินค­้า เมื่อหุ่นยนต์หลายๆตัวเริ่มขัดคำสั่งมนุษย์และดัดแปลงตัวเอง แต่ยิ่งสืบสวนลึกเข้าไป เขาก็พบว่าเบื้องหลังความจริงดังกล่าวเกี่ยวพันกับวิวัฒนาการอันมหัศจรรย์ของหุ่นยนต์

หนังดำเนินเรื่องแบบราบเรียบ ไม่หวือหวา พูดถึงเรื่องปรัชญามากว่าวิทยาศาสตร์ ทั้งการเสียดสีมนุษย์ที่ไม่ว่าโลกจะพัฒนาหรือเสื่อมไปถึงไหนก็ยังคงพยายามจะควบคุมทุกอย่าง วางตัวเองอยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหารเสมอ รวมถึงยังจับประเด็นความแตกต่างทางชนชั้นในสังคมมนุษย์อีกด้วย

แม้หนังจะไม่ได้ลํ้าจินตนาการแบบที่หลายคนคาดหวัง แต่มีความลึกในเนื้อหาพอสมควร โดยเฉพาะเรื่องการดิ้นรนเอาชีวิตรอดของเผ่าพันธุ์เก่ากับเผ่าพันธุ์ใหม่ ซึ่งมีฉากหลังเป็นยุคสมัยที่กํ่ากึ่งระหว่างเริ่มต้นกับสิ้นสุด การถ่ายทอดภาพสวยงาม ฉากทะเลทรายดูอ้างว้างไร้ความหวังเหมือนความคิดของ มนุษย์ ในเรื่อง

Automata ทำให้นึกถึงหนังไซไฟหลายๆเรื่อง อาทิ Ai ที่ว่าด้วยการมีชีวิตของ ปัญญาประดิษฐ์ Her ในแง่ความสัมพันธ์อันลึกซึ้งของคนกับหุ่นยนต์ กับบางคนมันเป็นแค่วัตถุ กับบางคนเป็นทาส กับบางคนเป็นเพื่อน และกับบางคนเป็นได้ถึงคนรัก นอกจากนี้ยังมีตัวละครอย่างเจ้าหุ่นตัวเล็กที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ ส่วนของใบหน้าทำให้อดคิดถึงเจ้า Wall-E ไม่ได้จริงๆ

สำหรับการแสดง บอกว่าเป็นการโชว์เดี่ยวของ แอนโตนิโอ แบนเดรัส ก็ว่าได้ ถือว่าไม่เลวเลยกับการเล่นหนังไซไฟเรื่องแรก ซีนที่อยู่กับหุ่นยนต์เขาทำให้คนดูเชื่อได้ว่าหุ่นยนต์มันมีชีวิตขึ้นมาจริงๆ น่าเสียดายที่ตัวละครมนุษย์ตัวอื่นๆยังทำได้ดีไม่ถึงมาตรฐานหนังจึงขาดความสมดุล

Automata เป็นหนังที่เล่าถึงหุ่นยนต์ในทางที่ต่างออกไป มีจุดที่ชวนให้ฉุกคิดและชวนสงสัยคล้ายๆ Transcendence กระนั้น ด้วยความที่หนังไม่มีแนวทางชัดเจน เริ่มเรื่องด้วยไซไฟ ต่อด้วยสืบสวน แต่จบด้วยดราม่าปรัชญาชีวิต ทำให้ไปไม่ถึงสักทาง ไม่อาจบอกได้เต็มปากว่าสนุก ทว่าก็สร้างความเพลิดเพลินในระดับหนึ่ง

BUGABOO NEWS / บทวิจารณ์โดย นกไซเบอร์

สิทธิโชติ สุภาวรรณ์ (นกไซเบอร์)

จบด้านขีดๆเขียนๆ ตอนนี้ทำงานเกี่ยวกับโลกไซเบอร์ เป็นคนชอบดูหนังมาก ดูได้ทุกแนว เมื่อดูจบแล้วมีอะไรค้างคาในใจก็จะมาระบายออกลงในบล็อกส่วนตัวเงียบๆ ใช้นามปากกาว่า นกไซเบอร์

 

You may also like...