วันที่มาอยู่กับพี่เทพ โพธิ์งาม คือจุดพลิกชีวิตผม ไม่อย่างนั้นทุกคนก็ไม่ได้เห็นผมหรอก พอดีผมโดดเด่นมาจากคณะพี่เทพที่ทำให้ผมมาถึงทุกวันนี้ ถ้าไม่มีจุดนั้นจะไม่มีหม่ำ จ๊กมก ผู้กำกับ 400 ล้าน* นักแสดง ศิลปินตลก ฯ หากไม่มีวันนั้นผมก็อาจจะค้าขายลาบ ส้มตำ เพราะผมชอบทำกับข้าว
ฉายา “ไหปลาแดกฝังเพชร” มันก็แล้วแต่คนจะพูดจะคิด โอเคแหละแล้วแต่คนนะ หลักจริงๆ ก็คือรู้จักวิธีคิด รู้จักกิน รู้จักอยู่ ผมว่านี่แหละดี รู้จักรักอาชีพตัวเอง รู้จักรักอาชีพตัวเอง รู้จักการดำเนินชีวิตในวันข้างหน้าที่จะเกิดขึ้น ผมคิดว่านี่แหละจะทำให้ความอยู่รอดของครอบครัวและมาตรฐานของตัวเองจะคงอยู่ตลอดไป
ผมยังเป็นเหมือนเดิม 20 ปีที่แล้วเป็นยังไงตอนนี้ก็ยังเป็นแบบนั้น กินข้าวสวยไม่ค่อยเท่าไหร่ไม่อิ่ม กินแต่ข้าวเหนียว ผมก็เป็นของผมแบบนี้แหละ การทำงานก็เรียนรู้ ถ้าเรามุ่งมั่นกับสิ่งที่เรารักความมั่งคั่งจะตามเรามา ถ้าคิดว่าเราจะรักอะไรเราต้องทำให้มันรู้สึกว่ามันรักเราด้วย นั่นคืออาชีพที่แท้จริงของเรา
ผมยังไม่ได้เดินมาถึงจุดสูงสุดของชีวิตนะครับ ทำงานไปเรื่อย ทำงานหาเงินให้ลูกเรียนไปตามประสาหัวอกพ่อ เป้าหมายของชีวิตในตอนนี้ผมอยากให้ลูกเรียนจบทั้ง 2 คน อยากจะหยุดพักได้เห็นลูกทำงานแล้วเราอยากพาเมียไปท่องเที่ยว เที่ยวในประเทศไทยแล้วค่อยไปเที่ยวต่างประเทศ เห็นฝรั่งอายุมากๆ เขาจูงมือกันมาเที่ยววัดพระแก้วบ้านเราถ่ายรูปกันสองคน…มันมีความสุขมากเลยนะ วันข้างหน้าอีก 4-5 ปีก็ไม่แน่ ผมอาจจะอยู่เบื้อหลังมากขึ้น อยากจะเบนเข็มตัวเองบ้าง เหนื่อยงานมาทั้งชีวิตแล้ว
* สำหรับภาพยนตร์ 100 ล้านเรื่องล่าสุดคือ วงษ์คำเหลา โดย 3 เรื่อง 300 ล้านก่อนหน้านี้คือ บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม 1-2 และแหยมยโสธร
————————————————————–
ที่มา : นิตยสาร HI-CLASS
ข้อเขียนนี้ เป็นลิขสิทธิ์ของนิตยสาร HI-CLASS ห้ามนำไปลอกเลียน ทำซ้ำ หรือ ดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้ละเมิดลิขสิทธิ์จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฏหมาย