Giorgio Armani

เป็นเรื่องปกติที่นักบริโภคสินค้าแฟชั่นแบรนด์หรู ผู้ยอมควักกระเป๋าจ่ายเงินจำนวนมหาศาลเพื่อครอบครองสิ่งสวยงาม ซึ่งถูกสร้างสรรค์โดยดีไซเนอร์คนโปรด ย่อมจะมีความชื่นชม ศรัทธาในตัวตนของเจ้าของแบรนด์ จนยอมตนเป็นสาวกของแบรนด์นั้นๆอย่างหมดหัวใจ ถึงขั้นที่เรียกเป็นภาษาการตลาดว่า มีความจงรักภักดีต่อแบรนด์ (Brand Loyalty) และถ้าเอ่ยชื่อนักออกแบบแฟชั่นแบรนด์ดังระดับพระกาฬ ที่มีสาวกกระเป๋าหนักอยู่ทั่วทุกมหานครในแผนที่โลก คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก จอร์โจ อาร์มานี (Giorgio Armani) นักออกแบบชาวอิตาลีผู้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันในนาม   “พายุเฮอริเคนแห่งวงการแฟชั่น” 

พายุที่กวาดชัยชนะ เกือบทุกสนามของแคทวอล์ค ผู้เป็นหนึ่งดีไซเนอร์ระดับตำนานที่มีอิทธิพลสูงสุดในการปฏิวัติการแต่งกายของผู้คนทั่วโลกแห่งช่วงปลายศตวรรษที่ 20 เหตุที่สไตล์ของเขามีอิทธิพลกว้างขวางนั้น ไม่ใช่เพียงเพราะการบริโภคแฟชั่นของผู้ที่นิยมแบรนด์โดยตรง แต่ยังรวมถึงอิทธิพลในฐานะที่เขาเป็นแรงบันดาลใจและเป็นผู้หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งสไตล์ให้กับดีไซเนอร์คนอื่นๆ ทั่วโลกอีกด้วย

จอร์โจ อาร์มานี (Giorgio Armani) ถือกำเนิดเมื่อ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2477 ในครอบครัวชาวอิตาลีแห่งแคว้นเอมิเลีย-โรแมกนา ชีวิตเรียบง่ายครั้งวัยเยาว์ของเด็กชายจอร์โจนั้น ก็ไม่ต่างจากผู้คนทั่วไปที่มีการลองผิดลองถูกในเส้นทางต่างๆ เพื่อค้นหาตัวเอง และสำหรับเขาคนนี้ ไม่น่าเชื่อว่า ก่อนที่จะเดินบนถนนสายแฟชั่นจนกลายเป็นมือหนึ่งของโลก จอร์โจ อาร์มานี เริ่มต้นชีวิตการงานของเขาด้วยการเป็นนักเรียนแพทย์ ซึ่งเป็นวิถีทางที่ต้องอยู่กับความทุกข์โศก ความป่วยไข้ และความไม่สวยไม่งามสารพัดที่ต้องเผชิญกับเรื่องราวแห่งสังขารร่างกายมนุษย์ เพราะแน่นอนว่า คงไม่มีหนุ่มหล่อล่ำบึก หรือสาวสวยหน้าใส สุขภาพดี แวะมาหาหมอเป็นแน่แท้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าการเรียนแพทย์จะทำให้เขาจะเกิดแรงบันดาลใจหรือแรงผลักดันจนทำให้หันเหชีวิตมาสู่โลกแฟชั่นอย่างไม่มีวันหวนกลับหรือไม่ แต่ในที่สุด หนุ่มน้อยจอร์โจ ก็ย่างเท้าก้าวแรกของเขาบนถนนสายแฟชั่นด้วยจุดเริ่มต้นในตำแหน่งเล็กๆ คือ คนจัดหุ่นตู้โชว์แฟชั่นของห้างสรรพสินค้า ลา รีนาเซ็นเต ในอิตาลี ซึ่งถ้าเป็นสมัยนี้ งานที่เขาทำก็คืองานสไตลิสต์นั่นเอง

ฝีไม้ลายมือในขั้นเริ่มต้นของ จอร์โจ อาร์มานี ย่อมจะไม่ทำธรรมดาจนถึงขนาดฉายแววให้เขาได้มีโอกาสเข้าไปฝึกปรือวิทยายุทธกับปรมาจารย์แฟชั่นชื่อดัง “นีโน่ เชอรูติ” และต่อสู้ล้มลุกคลุกคลานบนเส้นทางสายแฟชั่นตั้งแต่ พ.ศ. 2504-พ.ศ. 2513 จนปีกกล้าขาแข็ง ก่อนที่ตัดสินใจลงทุนทำธุรกิจของตัวเองด้วยการทุบกระปุกเอาเงินสะสมที่มีมาตลอดชีพทุกบาททุกสตางค์ บวกกับเงินที่ต้องตัดใจขายรถโฟล์คสวาเกนยานพาหนะคู่ใจเพียงคันเดียวที่มีในชีวิต เพื่อมาสร้างฝัน…สร้างแบรนด์ของตัวเอง โดยในปี พ.ศ. 2517 อาร์มานีและพันธมิตร เซอร์จิโอ กาเลล็อตติ ได้ก่อตั้ง จอร์โจ อาร์มานี เอสพีเอ เพื่อทำเครื่องแบบสำหรับผู้ชายเป็นหลัก ส่วนเครื่องแบบสำหรับผู้หญิงได้ทำขึ้นในปีถัดมา โดยคู่หูและหุ้นส่วนทั้งสองก็ได้กอดคอกันทำธุรกิจร่วมกันมายาวนานจนถึงวันสุดท้ายแห่งชีวิตของ เซอร์จิโอ กาเลล็อตติ ในปี 2528 สายสัมพันธ์อันแนบแน่นนี้ก็ยังไม่ขาดหาย เมื่อ รอสซานน่า อาร์มานี ผู้เป็นทายาทของได้เข้ามาเป็นพันธมิตรของจอร์โจแทน กาเลล็อตติ ผู้ล่วงลับ

ชื่อเสียงของ จอร์โจ อาร์มานี จากฝีมือการออกแบบที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์ และการตัดเย็บที่ประณีต รักษาคุณภาพมายาวนาน ทำให้แบรนด์ของเขาเป็นที่ยอมรับของวงการฮอลลีวู้ด   และแน่นอนว่า ฮอลีวูดนั้นไม่ได้เพียงแต่สร้างดารานักแสดง หรือผู้กำกับชื่อดังออกไปสู่โลกกว้าง หากยังสร้างดีไซเนอร์ชื่อดังให้เป็นที่นิยมกว้างขวางจากการออกแบบเสื้อผ้าบนพรมแดงให้เหล่าดาราและคนดังอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ชื่อเสียงของเขาจึงดังกระฉ่อนไปทั่วโลก จอร์โจเป็นผู้ออกแบบเสื้อผ้าของ ริชาร์ด เกียร์  ในเรื่อง  “อเมริกัน จิ๊กโกโล่”    ดาราดังหลายๆ คน  เคยสวมเสื้อผ้าของเขาขึ้นรับรางวัลออสการ์มาแล้วทั้งสิ้น   ไม่ว่าจะเป็น  โจดี้  ฟอสเตอร์   มิเชลล์ ไฟเฟอร์  และอื่นๆ อีกมากมาย

จากเด็กหนุ่มที่ทำงานจัดตู้โชว์สินค้าในห้าง มาสู่ดีไซเนอร์เจ้าของธุรกิจแฟชั่นนับพันล้านดอลลาร์  จอร์โจ อาร์มานี เป็นนักออกแบบแฟชั่นคนแรกที่ได้ลงปกนิตยสารไทม์ในรอบ 35 ปี ซึ่งเขาอาจจะไม่รู้สึกอะไรกับเกียรติยศนี้มากนัก เพราะ ผลงานออกแบบที่เขาภาคภูมิใจแทบทุกคอลเลคชั่น ต่างปรากฏบนหน้าปกนิตยสารแฟชั่นชั้นนำของโลกมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน เช่นเดียวกับดีไซเนอร์ทุกคนที่อยากให้โลกประทับใจกับผลงานของเขามากกว่าจะมาสนใจว่า คนออกแบบมีหน้าตาเป็นอย่างไร

  ——————————————————————————–

httP://www.artbangkok.com
ข้อเขียนนี้ เป็นลิขสิทธิ์ของ ArtBangkok.com ห้ามนำไปลอกเลียน ทำซ้ำ หรือ ดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้ละเมิดลิขสิทธิ์จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฏหมาย

 

You may also like...